ผลสำรวจ ผู้ประกอบทั่วประเทศ พบธุรกิจภาคบริการได้รับผลกระทบจากโควิดรอบที่ 3 หนักที่สุด รองลงมา ภาคการค้าและอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ภาคการผลิต กระทบจากในประเทศ ภาคส่งออกช่วยพยุง
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานผลการสำรวจผู้ประกอบการทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์แย่ลงในหลายธุรกิจ
ในภาคการผลิต ได้รับผลกระทบปานกลาง โดยตลาดในประเทศ กระทบมากขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกยังขยายตัวได้
ปัจจัยเสี่งสำหรับภาคการผลิต คือ การแพร่ระบาดในโรงงานมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทำให้บางโรงงานต้องหยุดผลิตชั่วคราว ในขณะที่ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังมีต่อเนื่อง และปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์รุนแรงต่อเนื่อง ผู้ประกอบการบางรายถึงพิจารณาย้ายสายการผลิตไปอยู่ใกล้ประเทศคู่ค้า
ภาคการค้า กระทบในระดับรุนแรง ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ยอดขายในห้างสรรพสินค้าลดลง เป็นผลจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นและผลกระทบของมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ขณะที่ร้านค้าขนาดเล็กทรงตัว จากผลของมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ
สินค้าคงทน ยอดขายลดลง ตามกำลังซื้อที่อ่อนแอและความระมัดระวังมากขึ้นในการให้สินเชื่อ รวมทั้งได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากจำนวนลูกค้าที่เข้าชมสินค้าลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม
ภาคอสังหาริมทรัพย์ กระทบในระดับรุนแรง การก่อสร้างกระทบมากขึ้น จากมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่สีแดงเข้ม ทำให้การก่อสร้างส่วนใหญ่หยุดชะงัก การส่งมอบงานและเบิกจ่ายงบลงทุนล่าช้า อักทั้งต้นทุนของผู้ประกอบการยังสูง แม้ไม่มีการก่อสร้าง อาทิ ค่าแรงงาน ค่าเช่าเครื่องจักร และค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กระทบต่อเนื่อง จากกำลังซื้อที่อ่อนแอ และความระมัดระวังมากขึ้นในการให้สินเชื่อ
ภาคบริการ กระทบรุนแรงที่สุด โรงแรม อัตราเข้าพักโดยรวมต่ำมาก เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่ลดลงและมาตรการควบคุมการเดินทางของแต่ละจังหวัด ส่วนร้านอาหาร ยอดขายลดลงต่อเนื่อง จากผลของมาตรการห้ามรับประทานอาหารในร้าน และ ขนส่งสินค้า มีรายได้ลดลง
อ่านข่าวเพิ่เติม:
- งานวิจัยชี้คนไทย 80% รายได้ลดจากผลกระทบโควิด อายุ 18-24 ปีหนักสุด
- โตโยต้ายุติการผลิต 7 วัน เหตุขาดชิ้นส่วน จากผลกระทบโควิด
- EIC หั่นหนักเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 0.9% จากผลกระทบโควิดแรงกว่าคาด