Economics

YLG เผยราคาทองคำพุ่งรับผลประชุมเฟด จับตาความตึงเครียดจีน-สหรัฐ

YLG เผยราคาทองคำทองพุ่ง รับผลประชุมเฟดยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แนะจับตาความตึงเครียดจีน-สหรัฐหนุนทองไปต่อ

วายแอลจี เผยทองคำกลับมาเคลื่อนไหวแดนบวกหลังผลประชุมเฟดยังไม่มีนโยบายเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เหตุตลาดแรงงานยังน่าเป็นห่วง ขณะที่ GDP ไตรมาส 2 แย่เกินคาด ส่งผลดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หนุนทองคำพุ่ง พร้อมแนะจับตาปัจจัยความตึงเครียดจีน-สหรัฐ หลังพบจีนสะสมอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมาก รวมถึงการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าในสหรัฐ ด้านเทคนิคระยะสั้นยังสดใส ยิ่งหากผ่าน 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์มีโอกาสไปต่อ แนะซื้อเมื่ออ่อนตัวที่แนวรับ 1,815-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวมีแรงซื้อสลับกับแรงขาย

เนื่องจากนักลงทุนรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในคืนวันพุธที่ผ่านมาซึ่งผลการประชุมปรากฎว่าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% โดยประธานเฟดระบุว่า จะยังคงนโยบายผ่อนคลายด้านการเงินไปจนกว่าจะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะตลาดแรงงาน ซึ่งขณะนี้ยังต้องจับตามองอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ยังห่างไกลจากการหารือ เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ราคาทองคำ
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์

จับตาความตึงเครียดสหรัฐ-จีน

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันราคาทองคำได้ปรับพุ่งขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ย

สำหรับปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำนั้นมาจากประเด็นสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจจะกลับมาเป็นที่น่าจับตา เนื่องจากสหรัฐสำรวจพบว่าจีนกำลังสะสมอาวุธนิวเคลียร์ 110 แห่งในมลฑลซินเจียง ทำให้สหรัฐเกิดความวิตกกังวล ปัจจัยนี้จึงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองต่อความตึงเครียดระหว่างประเทศซึ่งประเด็นนี้ส่งผลต่อราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น

ราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน

ส่วนคำแนะนำสำหรับนักลงทุนนั้นหากราคาทองคำยังแกว่งตัวในทิศทางขึ้นยังมีโอกาสที่จะไปได้ต่อ แนะนำเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยมองแนวรับที่ 1,815-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,250-28,050 บาท ส่วนแนวต้านมองที่ 1,833-1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,700 บาท ถ้าผ่านได้มีโอกาสไปที่ 1,856-1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,900-29,150 บาท แต่ต้องระวังถ้าหลุด 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,850 บาท ให้ตัดขาดทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK