Economics

ล็อกดาวน์สะเทือน!! ส.อ.ท. คาดกระทบเศรษฐกิจ​ 6 หมื่นล้านบาท

“ส.อ.ท.” ประเมินสถานการณ์ “ล็อกดาวน์” 14 วัน คาดกระทบเศรษฐกิจ​ 50,000-60,000 ล้านบาท มองมาตรการแจกเงินเยียวยาเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า​ ส.อ.ท. ได้ติดตามสถานและประเมินสถานการณ์ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นระยะเวลา 14 วันอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลาย ๆ ฝ่ายได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี

เบื้องต้น​ทาง​ ส.อ.ท. ประเมินว่าการล็อกดาวน์รอบนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 50,000-60,000 ล้านบาท แต่มั่นใจว่าหากรัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อลงได้ไปอยู่ในระดับหลักร้อยรายต่อวันเศรษฐกิจก็น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงประชาชนจะสามารถออกมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนการแพร่ระบาดที่ผ่านมา

ล็อกดาวน์

“การล็อกดาวน์ครั้งนี้ ทำให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจหลายแห่งต้องลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนมากขึ้น ยอมรับว่า กระทบต่อผู้ใช้แรงงานและลูกจ้างด้วย แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว” นายสุพันธุ์​ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เร็ว ๆ นี้ ส.อ.ท. จะมีการประชุมและหารือกับกลุ่มสมาชิก ถึงมาตรการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกที่สาม เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป​ การที่รัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการนี้จะส่งผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดี เช่นเดียวกันถ้ารัฐบาลไม่ทำก็มีผลกระทบเช่นกัน ต้องรอดูต่อไปว่าครบ 14 วันจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงหรือไม่

นายสุพันธุ์​ กล่าวว่า สำหรับการล็อกดาวน์ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นมาตรการหลักสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกที่ 3 ที่มีความรุนแรงมากกว่าระลอกที่ผ่าน ๆ มา และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนที่มากและเป็นวงกว้าง หากไม่ใช้มาตรการนี้ผลกระทบก็จะต้องทวีความรุนรุนแรงมากขึ้น โดยรัฐบาลควรเร่งการตรวจเชิงรุกและคัดแยกผู้ป่วยออกจากผู้ที่ไม่ติดเชื้อ เพื่อให้รับการรักษาที่ตรงรวดเร็วมากขึ้น

ล็อกดาวน์

แจกเงินเยียวยาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

“มาตรการแจกเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนได้ในระดับหนึ่ง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุดในขณะนี้ คือ การแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกจากสมาชิกคนในบ้านที่ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อท่ามกลางมาตรการที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ให้คนอยู่ในบ้าน” นายสุพันธุ์​ กล่าว

นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นรัฐบาลต้องแยกคนป่วยกับคนไม่ป่วยที่อยู่ในบ้านเดียวกันออกจากกันให้ได้ก่อน เพราะขณะนี้เกิดภาวะการแพร่ระบาดระหว่างคนใกล้ชิดในครอบครัว ที่สำคัญ ต้องทำควบคู่กับการตรวจเชิงรุกด้วยชุดทดสอบหาเชื้อโควิด-19 แบบรวดเร็วให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึงโดยด่วน ช่วยแบ่งเบาภาระบุคลาการทางการแพทย์ และสามารถคัดแยกกลุ่มเสี่ยงออกมาให้รวดเร็ว สกัดการแพร่เชื้อสู่คนอื่นได้ เพราะเวลานี้ทุกคนทั้งติดเชื้อและไม่ติดเชื้อต้องล็อกดาวน์ตัวเองอยู่ในบ้านเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังคงยืนยันเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนกระจายการฉีดให้ประชาชนอย่างเพียงพอ และต้องให้ทั่วถึง 70% ของประชากรทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่แท้จริงเพื่อให้ผ่านพ้นการระบาดในครั้งนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo