“ปลัดท่องเที่ยว” เปิดใจหลังยื่นลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ยืนยันไร้ข้อขัดแย้งภายในกระทรวง
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยครั้งแรกหลังยื่นใบลาออกจากราชการ โดยมีผลในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ว่า 3 ปีที่ดำรงตำแหน่งปลัดและทำงานในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับโอกาสในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับกระทรวงมากมายและได้เห็นความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในด้านการท่องเที่ยวที่มีความรวดเร็ว สนองตอบทันกับโลกที่เปลี่ยนไป รวมทั้งด้านกีฬาที่มีความชัดเจนในนโยบายหลากหลายด้านมากขึ้น ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับผู้ปฏิบัติงานในกระทรวงทุกคน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเกิดจากความขัดแย้งภายในกระทรวงนั้น เรื่องนี้ไม่มีมูล ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในทุกงานที่ได้รับมอบหมาย
“เพื่อสร้างบรรทัดฐานของข้าราชการประจำในระดับบริหาร ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน จึงคิดว่าก็ต้องสร้างมาตรฐานนี้ไว้ ก็ต้องเลือกว่าจะทำเอกชนหรืออยากจะทำราชการ ไม่ใช่ทำทั้ง 2 อย่าง มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง อีกทั้งกฎหมาย ป.ป.ช. ฉบับใหม่ปี 2561 ถ้าอ่านดีๆ มีอยู่มาตรานึงที่ตีความได้ว่า ไม่อยากให้ข้าราชการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ไม่ควรไปนั่งเป็นกรรมการในบริษัทเอกชนใดๆ เลยทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะกำกับดูแลโดยตรงหรือไม่กำกับดูแลโดยตรงก็ตาม เพื่อตัดปัญหาความเสี่ยงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และให้ทุกฝ่ายสบายใจก็ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง”
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมไม่รอก่อนเพราะอีกเพียง 10 เดือนจะเกษียณนั้น ตนมองว่าเมื่อมีโอกาสดีๆ ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้ในระยะยาวก็ควรตัดสินใจเลย ไม่ต้องรอเวลาให้ล่วงเลย ตนจึงตัดสินใจขอเลือกความชัดเจนในอนาคตที่ดีมีความท้าทายรออยู่
