Economics

คาดส่งออกปีนี้โตมากกว่า 7% วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม

“สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ” คาด ส่งออกปีนี้ โตมากกว่า 7% หลังประเทศคู่ค้าฟื้นตัว วิงวอนให้รัฐบาลดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อเร่งฉีดวัคซีคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะแรงงานภาคการผลิต

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. คาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโตมากกว่า 7% โดยการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนจากนี้อยู่ที่ 19,000 ล้านดอลลาร์ และมีโอกาสเติบโตถึง 10% โดยส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกันนี้หากต้องการส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 15% การส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนจากนี้อยู่ที่ 23,000 ล้านดอลลาร์ โอกาสอาจจะน้อยเนื่องจากต้องมีหลายปัจจัยประกอบกับผู้ส่งออกต้องผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่

ส่งออกปีนี้
ทั้งนี้ การส่งออกจะโตได้ต้องมีปัจจัยบวกที่สนับสนุน ได้แก่ การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก ประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐ จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายตามปกติ

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการส่งออก ได้แก่

  1. แรงงานขาดแคลน เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวทำให้ความต้องการแรงงานในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศและยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามาจากการปิดประเทศ ประกอบกับปัจจุบันจำนวนวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ยังไม่สามารถจัดสรรให้เพียงพอกับจำนวนแรงงานในภาคการผลิตเท่าที่ควร ยิ่งซ้ำเดิมปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
  2. สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีความรุนแรงในประเทศ อาทิ กรณีคลัสเตอร์การระบาดในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศ เริ่มส่งกระทบต่อกระบวนการผลิตที่ต้องหยุดชะงักชั่วคราวและการเลื่อนส่งมอบสินค้าไปยังประเทศปลายทาง
  3. ปริมาณปัจจัยการผลิตที่ไม่เพียงพอและมีต้นทุนเพื่มสูงขึ้น
  4. ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนและอัตราค่าระวางที่ทรงตัวในระดับสูง

ส่งออกปีนี้

ทั้งนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย วิงวอนให้รัฐบาลดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อเร่งฉีดวัคซีคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะแรงงานภาคการผลิตให้เร็วที่สุด เนื่องจากวัคซีนเป็นเครื่องป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเดียวที่สามารถช่วยภาคการส่งออกและภาคการผลิตซึ่งเป็นซัพพลายเชนของการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจเดียวที่ยังเดินหน้าต่อไปได้ให้สามารถฟื้นตัวและสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศให้ยังอยู่รอดได้ต่อไป

ด้านนายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ต้องการให้แรงงานต่างด้าวเข้าถึงการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะเป็นกลุ่มสำคัญเช่นกัน พร้อมกันนี้ ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อรวมไปถึงการเร่งฉีดวัคซีน เพราะเศรษฐกิจไทยที่ขับเคลื่อนได้ในขณะนี้ คือ ภาคของการส่งออก โดยอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโตได้ เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมอาหาร ชิ้นส่วนยายยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น และก็คาดหวังการอ่อนค่าของเงินบาทจะช่วยให้การส่งออกเติบโต

วิงวอนให้รัฐบาลดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อเร่งฉีดวัคซีคให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะแรงงานภาคการผลิตให้เร็วที่สุด เนื่องจากวัคซีนเป็นเครื่องป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเดียวที่สามารถช่วยภาคการส่งออกและภาคการผลิตซึ่งเป็นซัพพลายเชนของการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจเดียวที่ยังเดินหน้าต่อไปได้ให้สามารถฟื้นตัวและสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศให้ยังอยู่รอดได้ต่อไป” นายสุภาพ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo