Economics

รู้ยัง? พรุ่งนี้ ‘เราชนะ’ จ่ายเยียวยางวดใหม่อีกรอบ ใครได้บ้าง เช็คเลย!!

รู้ยัง? พรุ่งนี้ “เราชนะ” จ่ายเยียวยางวดใหม่อีก 1,000 บาทสำหรับกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และจ่ายต่อเนื่องจนครบ 2,000 บาท ด้าน “คลัง” ระงับสิทธิชั่วคราวร้านค้าอีก 7 รายหลังพบธุรกรรมผิดปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ได้อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ปรับปรุงรายละเอียดโครงการ “เราชนะ” เพื่อเพิ่มวงเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ตามกลุ่มเป้าหมายทั้ง 4 กลุ่ม ที่ไม่เคยขอสละสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการ จำนวนประมาณ 33.5 ล้านคน คนละ 1,000 บาทต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

ตามช่องทางการได้รับวงเงินสนับสนุนของแต่ละกลุ่ม ทำให้กรอบวงเงินรวมของโครงการ เพิ่มขึ้นจากกรอบวงเงินไม่เกิน 213,242 ล้านบาท เป็นกรอบวงเงินไม่เกิน 280,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 67,000 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินสนับสนุนที่ได้รับตามโครงการสามารถสะสมเพื่อใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

เราชนะ

ไทม์ไลน์การโอนเงิน “เราชนะ” และ “ม33 เรารักกัน” มีกำหนดดังนี้

โครงการเราชนะ : โอนเงินเข้าแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” 

ครั้งที่ 1 : วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

ครั้งที่ 2 : วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

โครงการเราชนะ : โอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

ครั้งที่ 1 : วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

ครั้งที่ 2 : วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

โครงการเราชนะ : โอนเงินเข้าบัตรประชาชน (กลุ่มเปราะบาง) 

ครั้งที่ 1 : วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

ครั้งที่ 2 : วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 : จำนวน 1,000 บาท

โดยทุกโครงการสามารถสะสมยอดใช้จ่ายได้ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2564

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการเราชนะว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 กระทรวงการคลัง ได้ตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ จึงได้ทำการระงับสิทธิ์ชั่วคราว การเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการจำนวน 7 รายเพิ่มเติม จากที่ได้มีการระงับสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการแล้ว 2,905 ราย เนื่องจากตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายมีความผิดปกติ หรือเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด เป็นต้น

กระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแส ของผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว และขอเรียนว่า กระทรวงการคลัง จะเข้มงวดในการติดตามตรวจสอบประชาชน และผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลัง ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการ หรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับผู้ประกอบการที่ถูกระงับสิทธิ์ชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 จำนวน 7 ราย ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โครงการเราชนะ) ภายในวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ตามข้อความแนะนำที่ปรากฏขึ้นในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยวิธีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะต่อไป

เราชนะ

สำหรับความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 มีรายละเอียดดังนี้

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,965 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com
    ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการเราชนะ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 116,315 ล้านบาท และ
  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,707 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 205,987 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์เดิม จำนวน 7,000 บาท แล้ว จำนวน 25.6 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo