Economics

จับตา ‘คนละครึ่งเฟส 3’ ยันพฤษภาคมนี้ชัดเจนแน่!!

จับตาคนละครึ่งเฟส 3 “สุพัฒนพงษ์” เผยรัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหม่ “คลัง” ยันเตรียมงบประมาณสำหรับการเยียวยา – ฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ยังคงมั่นใจว่าการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลจะสามารถควบคุมได้ภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากในขณะนี้แม้จะมีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่จำนวนของผู้ที่รักษาหายก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันเช่นกัน ซึ่งขอให้ประชาชนยังคงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลดูแลสถานการณ์ตรงนี้ได้

เมื่อถามว่าแผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจะยังคงเป็นไปตามแผนเดิมหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า ยังเป็นไปตามแผนเดิมคือในเดือนกรกฎาคมนี้ จะเปิดบางส่วน บางพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวที่รับการฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ ส่วนการปรับลดประมาณการรายได้การท่องเที่ยวก็คงต้องเป็นไปตามนั้น แต่ยังมั่นใจว่าประชาชนคนไทยจะยังท่องเที่ยวกันเอง และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเพราะมีกลุ่มคนที่มีเงินเก็บออมในปีที่ผ่านมาก็มีการออมเงินกันเพิ่มขึ้นถึง 3 – 4 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยหมดโอกาสที่จะขยายตัวถึง 4% แล้วใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ยังคาดหวังว่าถ้าประชาชนออกมาช่วยกันจับจ่ายใช้สอยกันมาก โดยเฉพาะผู้มีเงินออม ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ได้เตรียมมาตรการเอาไว้แล้วในการให้คนเอาเงินออมออกมาใช้ โดยรัฐบาลสนับสนุนมาตรการบางส่วน รวมทั้งมาตรการเยียวยาก็ได้เตรียมไว้แล้วจะประกาศให้ทราบในเดือนพฤษภาคม และมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้

“มาตรการต่าง ๆ ที่จะออกมารัฐบาลยังมีเงินเพียงพอสำหรับเยียวยารอบนี้ ยังไม่ต้องกู้เงินเพิ่มเติม” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

คนละครึ่งเฟส 3
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเร่งอัดฉีดเม็ดเงิน 2 – 3 แสนล้านบาท ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณสำหรับการเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าวแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท

โดยในส่วนมาตรการของกระทรวงการคลัง ที่พิจารณาจะเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ลดภาระของประชาชนและกระตุ้นการใช้จ่าย การบริโภคภายในประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

“คลังได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ มีการออกมาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนการทำมาตรการระยะต่อไป จะพิจารณาอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา และเกิดประโยชน์สูงสุด” น.ส.กุลยา กล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการ “เราชนะ” มีประชาชนได้รับสิทธิในโครงการฯ แล้ว 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 202,173 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้า ร้านค้าคนละครึ่ง รวมถึงผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนกว่า 1.3 ล้านกิจการ

คนละครึ่งเฟส 3

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการ “คนละครึ่งเฟส 3” ได้รับการยืนยันจากผู้บริหารกระทรวงการคลัง ว่า จะมีข้อสรุปที่ความชัดเจนในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยรูปแบบการใช้จ่ายใกล้เคียงก็โครงการคนละครึ่งในเฟส 1 และ 2 แต่จะมีการเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการ อาทิ การขยายสิทธิให้ร้านค้าในภาคบริการ เช่น ร้านทำผม ร้านนวด เป็นต้น เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้

หลังจากที่ในเฟส 1 และ 2 มีเพียงร้านขายสินค้าและอาหารเท่านั้น โดยจะเอาสิ่งที่บกพร่องมาปรับปรุงให้ดีขึ้น หรืออะไรที่ยังไม่ครอบคลุมก็จะทำให้ครอบคลุม เช่น รอบนี้เรามีข้อมูลจากบริการก็อาจจะรวมเข้าไปด้วย เพราะคนละครึ่งเฟสแรกมีเพียงข้อมูลการซื้อสินค้า เป็นต้น

“โดยที่โครงการเราชนะ ก็มีภาคบริการเข้ามาแล้ว ก็จะดูผลของภาคบริการด้วย โดยตอนนี้ได้ให้กรุงไทยไปรวบรวมข้อมูลภาคบริการแล้ว ว่ามีส่วนใดบ้าง นอกจากนี้ยังจะทำการปรับปรุงเพื่อลดช่องว่างในเรื่องของการป้องกันร้านค้าและผู้ใช้งานทุจริตในโครงการ” แหล่งข่าวระบุ

สำหรับรายละเอียดโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่ชัดเจนอื่น ๆ เช่น การลงทะเบียนใหม่ และระยะเวลาดำเนินโครงการนั้น จะต้องรอหารือในระดับนโยบาย ส่วนจำนวนผู้เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 ล้านคน หรือจะขยายจำนวนถึง 30 ล้านคนเท่ากับโครงการเราชนะ หรือไม่ และวงเงินที่จะให้ใช้จ่าย ที่เท่ากับโครงการที่ผ่านมา 3,500 บาท นั้นต้องดูเรื่องงบประมาณว่าจะมีเพียงพอหรือไม่

โดยคาดว่าจะนำมาจากเงินกู้ในพระราชกำหนด 1 ล้านล้านบาท ส่วนวงเงินที่จะให้เบื้องต้น คาดว่าจะไม่ได้ให้ 500 บาท เหมือนเฟส 2 ซึ่งอาจจะน้อยเกินไป แต่หากจะให้รายละ 3,000 – 3,500 บาท นาน 3 เดือน ก็ต้องดูว่ามีเงินเหลือพอหรือไม่ ซึ่งตอนนี้เงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนวงเงินเยียวยา 5.5 แสนล้านบาท ใช้ไปเกือบหมดแล้ว จึงเหลือวงเงินในส่วนฟื้นฟูอีกประมาณ 2.4แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายว่าจะจ่ายเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของแผนเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเต็มวงเงินแล้ว 5.5 แสนล้านบาท ก็อาจจะมีการพิจารณาใช้วงเงินจากก้อนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่ 2 แสนล้านบาท ส่วนก้อนที่ใช้สำหรับสาธารณะสุข ใช้ไป 1,500 กว่าล้านบาท จากกรอบเงิน 45,000 ล้านบาท สาเหตุที่พิจารณาจะออกโครงการ คนละครึ่งเฟส 3 เนื่องจากโมเมนต์ตัมในเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ช่วยเหลือทุกภาคส่วน และผู้ประกอบการรายเล็กจริง ๆ ที่มีเกือบ 2 ล้านราย ซึ่งรวมภาคบริการที่เพิ่งเข้าร่วมในโครงการเราชนะ นอกจากประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการรายเล็กแล้ว เรายังช่วยกัน ทุกท่านช่วยกันออกเงินครึ่งหนึ่ง และ รัฐก็ออกอีกครึ่งหนึ่ง เป็นเรื่องของความร่วมมือกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo