Economics

อัพเดทเราชนะล่าสุด เงินสะพัดแล้ว 2.02 แสนล้านบาท

อัพเดท “เราชนะ” ล่าสุด มีผู้ได้รับสิทธิ์แล้ว 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนแล้วกว่า 202,173 ล้านบาท พร้อมขยายระยะเวลาใช้จ่ายเงิน ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่ใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

“กระทรวงการคลัง” รายงานความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 26 เมษายน 2564 ดังนี้

1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,466 ล้านบาท

2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น และยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 114,098 ล้านบาท

3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,609 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 202,173 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการใช้จ่าย ผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

178378249 1645261379012505 4915344005125599230 n

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการ “เราชนะ” ว่า รัฐบาลไม่ได้มีการเปิดรับสมัครลงทะเบียนเพิ่ม โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นได้เคยมีมติอนุมัติจำนวนกลุ่มเป้าหมายแล้วประมาณ 31.1 ล้านคน แต่เนื่องจากจำนวนผู้มีสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจริง มีมากกว่าที่ประมาณการไว้ แยกเป็นดังนี้

  • ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการแล้ว 33.1263 ล้านคน
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคัดกรอง ประมาณ 86,000 คน
  • ผู้ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ที่อยู่ระหว่างการทบทวนสิทธิประมาณ 284,000 คน

ดังนั้น ครม.จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการเราชนะ ให้เป็นประมาณ 33.5 ล้านคน เนื่องจากมีผู้รับสิทธิสูงกว่ากรอบเดิมที่วางไว้ กระทรวงการคลัง จึงได้ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม มาใช้ให้สอดคล้องกับจำนวนคนที่เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงการคลัง ไม่ได้มีการเปิดรับสมัครลงทะเบียนเพิ่มในโครงการเราชนะแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบขยายระยะเวลาที่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่ใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และให้กระทรวงการคลังพิจารณาผลการทบทวนสิทธิให้เสร็จสิ้นภายใน 13 พฤษภาคม 2564 ด้วย

อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่มีการเรียกร้อง ให้รัฐบาลเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้เร่งดำเนินการในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หรือควรมีเม็ดเงินเติมลงไปในระบบ 2 – 3 แสนล้านบาท ให้เศรษฐกิจฟื้นได้นั้น กระทรวงการคลัง ได้ติดตามสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ด้านต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบ ทางเศรษฐกิจของประเทศ และมีการดำเนินมาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการใด ๆ ในระยะต่อไป กระทรวงการคลัง จะพิจารณาอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณสำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กว่า 3 แสนล้านบาท

โดยในส่วนของมาตรการของกระทรวงการคลัง ที่จะพิจารณาดำเนินการ จะเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ลดภาระของประชาชน และกระตุ้นการใช้จ่าย และการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo