Economics

ยกคำร้อง! ศาลปกครองชี้ ‘คมนาคม – รถไฟ’ ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

ศาลปกครองกลางยกคำร้องขอระงับ จ่ายค่าโง่ ชี้ “คมนาคม – รถไฟ” ต้องจ่าย “โฮปเวลล์” 2.5 หมื่นล้านตามคำพิพากษา

วันนี้ (21 เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องของดการบังคับคดี ในคดีที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอชะลอการจ่ายค่าเสียหายราว 2.5 หมื่นล้านบาท แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

ยกคำร้อง โฮปเวลล์

เหตุผลที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เมื่อคดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.410-412/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 พิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2 551 โดยให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

ผลแห่งคำพิพากษาดังกล่าวจึงผูกพัน ทั้ง 2 หน่วยงานต้องปฏิบัติตาม คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ตามในมาตรา 70 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542

แม้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ จะอ้างว่าได้ดำเนินการทางศาล โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินว่า มติที่ประชุมใหญ่ของตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18 /2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศิจกายน 2545 ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 หรือไม่ และการรถไฟฯ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้ง 2 หน่วยงานได้ดำเนินการสอบสวน เพื่อหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งและทางวินัยจากการกระทำความผิดในโครงการนี้ ก็ตาม

แต่ในชั้นนี้ กรณีดังกล่าวไม่เป็นเหตุที่จะเข้าเงื่อนไขในการงดการบังคับคดี ตามข้อ 131 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2543

ส่วนการทุเลาการบังคับคดีนั้น ไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี ประกอบกับคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วตามมาตรา 73 วรรค 4 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ศาลจึงไม่อาจมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีได้เช่นกัน

 

“คมนาคม – รถไฟ” สู้ต่อ!

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย  เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ต้องรอให้คณะทำงานของกระทรวงคมนาคมพิจารณาคำสั่งศาลปกครองกลางอย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางในการต่อสู้คดีต่อไป ซึ่งตนมองว่ายังมีช่องทางที่ตามกฎหมายสามารถสู้คดีต่อไปได้

“ขณะนี้ถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด เราจะยังไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าโง่ตอนนี้ เพราะว่าจะสู้คดีต่อ มั่นใจว่ายังมีช่องทางที่สู้ได้ ซึ่งคณะทำงานกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทาง” นายนิรุฒกล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมที่จะเดินหน้าต่อสู้ดคีต่อ โดยเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้มีการพิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติที่ประชุมศาลปกครองสูงสุดคดี โฮปเวลล์ เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครองขัดรัฐธรรมนูญ

“คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้กระทรวงคมนาคม สามารถรื้อคดีขึ้นมาใหม่ได้ เพราะเรามีหลักฐานใหม่เรื่องของการนับอายุความในการฟ้องร้องคดีของ โฮปเวลล์ โดยเตรียมที่จะยื่นร้องต่อศาลปกครองสูงสุดขอให้พิจารณาคดีใหม่  พร้อมทั้งให้ขอทุเลาการบังคับคดีด้วย เพื่อชะลอการคิดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับด้วย”

shutterstock 1377173846

มติศาลรัฐธรรมนูญลงมติ จ่ายค่าโง่ “โฮปเวลล์” ขัดรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ มติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2545 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครอง ที่กำหนดให้นับอายุความฟ้องคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มีนาคม 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการ โฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ โดยให้เหตุผลว่าแม้เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง

คดีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งคำร้องของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองสูงสุด นำมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดครั้งดังกล่าว ที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย คือ ไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ ไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้หรือไม่ รวมทั้งการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2544 ซึ่งผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 51 ที่บัญญัติว่าให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ “รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี”ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนมติหรือการกระทำดังกล่าว

การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า มติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวขัด หรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ย่อมมีผลต่อการที่กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ จะยื่นรื้อคดีใหม่ หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาสั่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานปฏิบัติตามมติอนุญาโตตุลาการที่ให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัท โฮปเวลล์ กว่า 2.5 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีการคิดดอกเบี้ยปรับเพิ่มวันละ 2 ล้านบาท ระหว่างที่มีการต่อสู้คดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo