ปี 66 กรมขนส่งฯ เตรียมบังคับใช้มาตรฐานใหม่ “ตัวถังรถโดยสาร” ลดความรุนแรงอุบัติเหตุพลิกคว่ำ
นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการปรับปรุง พัฒนา ยกระดับมาตรฐานด้านวิศวกรรมยานยนต์ของประเทศ ขบ. จึงมีแนวทางในการปรับปรุงความแข็งแรงของโครงสร้างหลักของตัวรถโดยสารซึ่งคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
โดยได้ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) เป็นผู้ศึกษาวิจัยและพัฒนาออกแบบโครงสร้างตัวถังรถโดยสารมาตรฐานต้นแบบ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการผลิตโครงสร้างตัวถังรถโดยสารให้มีความแข็งแรง ลดความรุนแรงที่จะเกิดแก่ทั้งผู้ขับรถและผู้โดยสารจากการเกิดอุบัติเหตุการพลิกคว่ำ
สำหรับวันนี้ (19 มี.ค.) ได้มีการจัดการทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังรถโดยสารต้นแบบ ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ด้วยการจำลองน้ำหนักของรถและผู้โดยสารเสมือนจริงมาทำการพลิกคว่ำว่ามีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอในการใช้งานหรือไม่ โดยโครงสร้างตัวถังที่ยุบตัวหลังจากการกระแทกพื้น ต้องไม่ล้ำเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยที่จำลองไว้เป็นพื้นที่ของผู้โดยสาร จึงจะถือว่าโครงสร้างตัวถังรถมีความแข็งแรงที่เพียงพอและเหมาะสมที่จะใช้งาน เป็นไปตามหลักวิศวกรรมและตามมาตรฐานสากลของข้อกำหนดสหประชาชาติ (United Nation Regulation) UN R66
สำหรับต้นแบบโครงสร้างตัวถังรถโดยสารที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบ ทางผู้พัฒนาจะใช้เป็นแนวทางในการกำหนดรายละเอียดสำหรับเป็นต้นแบบผลิตโครงสร้างตัวถังรถโดยสารเพื่อให้ผู้ผลิตในประเทศนำไปผลิตให้มีความแข็งแรงเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
โดยมีเป้าหมายกับกลุ่มรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีความสูงตั้งแต่ 3.60 เมตรขึ้นไป ที่จดทะเบียนใหม่ รถที่มีการเปลี่ยนตัวถัง และรถที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วแต่ได้แจ้งเลิกใช้รถตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 แล้วนำมาจดทะเบียนใหม่ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวถัง โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ตามแนวทางการยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เหยียบได้เลย! ‘คมนาคม’ ดีเดย์เริ่มวิ่ง 120 กม/ชม. ‘ถนนสายเอเชีย’ วันที่ 1 เม.ย.
- ‘ขนส่ง’ เตือน! รถโดยสารไม่ประจำทาง ห้ามเคลื่อนย้าย ‘แรงงานต่างด้าว’ 11 จังหวัด
- อาการดีขึ้น! ‘ปลาวาฬ’ เจ้าของโรงแรมศรีพันวา ประสบอุบัติเหตุ ไม่พบเลือดคั่งในสมอง
