Economics

เช็คสิทธิ์พรุ่งนี้ ‘เราชนะ’ 2 กลุ่มเตรียมรับเงินรวดเดียว 7 พันบาท!

“เราชนะ” ประกาศผลการทบทวนสิทธิ์กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 รวมถึงผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินปีภาษี 2562 สามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิ์ได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการประกาศผลการทบทวนสิทธิ์ ของประชาชนที่ขอทบทวนสิทธิ์ เรื่องการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม การเป็นเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการการเมือง ผู้รับบำนาญ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ หรือการเป็นผู้มีเงินฝากเกินเกณฑ์ที่กำหนด ในระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564

รวมถึงผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 แล้ว ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 ที่ได้แสดงความประสงค์ขอทบทวนสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ว่า ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

เราชนะ

โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 0 2111 1122 โดยผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

สำหรับความคืบหน้าของโครงการล่าสุด ณ วันที่ 18 มีนาคม 2564 ดังนี้

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 51,060 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการ แล้ว จำนวน 16.7 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 70,068 ล้านบาท
  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 2,977 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 124,105 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

เราชนะ

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตของประชาชน หรือผู้ประกอบการร้านค้า หรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ โดยมีพฤติกรรมการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่น การแลกวงเงินสิทธิ์เป็นเงินสด การขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ประสานขอความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและตรวจสอบ โดยหากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้า และดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชน ในการรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ ส่วนประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรม ที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ สามารถแจ้งเบาะแส รวมถึงส่งหลักฐาน การกระทำผิดเงื่อนไขโครงการ ทางไปรษณีย์มาที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) : [email protected]

โฆษกกระทรวงการคลัง ได้เน้นย้ำว่า ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน) ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2564 จะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก จำนวน 6,000 บาท ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าว ได้ที่ร้านค้า และผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK