Economics

อ่านด่วน! ‘ไทยคู่ฟ้า’ อัพเดทเกณฑ์ทบทวนสิทธิ์ ‘เราชนะ’ ต้องทำแบบนี้

“ไทยคู่ฟ้า” เตือนผู้ไม่ผ่านเกณฑ์มีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 ที่ยื่น “ทบทวนสิทธิ์เราชนะ” ต้องยื่นภาษีภายใน 7 วัน นับจากวันที่กดปุ่มทบทวน แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ ไทยคู่ฟ้า โพสต์ข้อความว่า ไม่ผ่านเกณฑ์เงินได้พึงประเมิน รีบยื่นภาษี – ขอทบทวนสิทธิ พร้อมระบุว่า แจ้งข่าวไปยังกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนเราชนะ แล้วพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ในปีภาษี 2562 และมีความประสงค์ยื่นขอทบทวนสิทธิ

สามารถกดปุ่มทบทวนสิทธิได้ที่เว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่สำคัญจะต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่กดปุ่มทบทวนสิทธิ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564

หลังจากนั้น กระทรวงการคลังจะตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง และจะประกาศผลการทบทวนสิทธิให้ทราบ ในวันที่ 19 มีนาคม 2564

150862961 1120245168441288 5086654693303248137 n

สำหรับความคืบหน้าการเข้าร่วมโครงการเราชนะของกลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ว่ามีผู้ที่ผ่านคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันใช้สิทธิ์ร่วมโครงการผ่านแถบโครงการ “เราชนะ” ในแอป “เป๋าตัง” แล้ว จำนวน 10,544,909 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.)

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเข้าร่วมโครงการเราชนะ ของกลุ่มประชาชนที่อยู่ในฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ว่ามีผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการ ผ่านแถบ (Banner) โครงการเราชนะ ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จำนวน 10,544,909 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.)

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ประสงค์ยืนยันตัวตนเข้าโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อระบบของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จึงปิดระบบดังกล่าวชั่วคราวจนถึงเวลา 20.00 น. และขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถทยอยดำเนินการยืนยันตัวตนได้ และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ภายหลังจากการยืนยันตัวตน โดยจะได้รับวงเงินสิทธิ์เพิ่มเป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนวงเงินสิทธิ์ครบ 7,000 บาท โดยสามารถสะสมวงเงินสิทธิ์และใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการ ร้านค้าและบริการรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำถึงการเปิดจุดรับลงทะเบียน ณ สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง

23JAN เราชนะ

รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง โดยจากข้อมูลล่าสุดมีประชาชนกลุ่มดังกล่าวลงทะเบียนผ่านสาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยแล้ว จำนวน 455,354 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00น.) และกระทรวงการคลังจะมีการเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการ ผ่านสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการร่วมกับธนาคารทั้ง 3 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่รับลงทะเบียนให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีข่าวปลอม (Fake News) จากสังคมออนไลน์ (Social Media) เกี่ยวกับโครงการฯ ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงการคลังได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของโครงการฯ โปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมจากช่องทางดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ จากช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการจากทางราชการ ได้แก่ www.เราชนะ.com www.mof.go.th www.fpo.go.th และ Facebook Fanpage “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง” และ “สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง: Fiscal Policy Office”

สุดท้ายนี้ กระทรวงการคลัง พบว่า มีประชาชนหรือร้านค้าที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้มีการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้าตลอดจนระงับการจ่ายเงินให้กับร้านค้าทันที รวมถึงระงับการใช้แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ด้วย และจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

กระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือประชาชนรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ สำหรับประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ สามารถแจ้งเบาะแสรวมถึงส่งหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการ ถึง “คณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการ ทางไปรษณีย์มาได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail Account) [email protected]

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo