เราชนะ ประกาศความพร้อม! “คลัง – กรุงไทย” มั่นใจเปิดลงทะเบียน 29 ม.ค. ไม่มีปัญหา ยันสามารถซื้อสินค้าได้จากทั้งร้านธงฟ้า และร้านคนละครึ่ง รถแท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ว่า โครงการ “เราชนะ” ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติไปล่าสุดว่า เชื่อว่าโครงการไทยชนะ จะมีคนสนใจมาก จึงได้เตรียมความพร้อมในการเพิ่ม capacity ไว้ 2-3 เท่าในการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนตั้งแต่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์นี้
โดยการคัดกรองข้อมูลของประชาชนในโครงการเราชนะจะแบ่งไว้เป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2.กลุ่มที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
3.กลุ่มที่ไม่ได้มีฐานข้อมูลอยู่ในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่มีแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
สำหรับในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่แล้ว ให้รอรับเงินโอนรอบแรกคือ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ส่วนกลุ่มที่มีแอปฯ เป๋าตังอยู่แล้ว จะตรวจสอบข้อมูลให้ก่อน แล้วจะเปิดให้เข้าไปตรวจสอบสิทธิทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
ทั้งนี้ ถ้าเป็นผู้ผ่านคุณสมบัติ ก็จะได้รับเงินโอนงวดแรกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 รวม 2,000 บาท ซึ่งเป็นการตกเบิกรวมกันของสัปดาห์แรก และสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นจะได้รับสัปดาห์ละ 1,000 บาท ไปจนครบ 7,000 บาท
ส่วนกลุ่มที่สาม ซึ่งไม่ได้มีฐานข้อมูลในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีแอปพลิเคชั่นเป๋าตังมาก่อน จะต้องมาลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564 และสามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิได้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 หากผ่านคุณสมบัติ ก็จะได้รับเงินโอนเข้าแอปเป๋าตังครั้งแรกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 2,000 บาท ซึ่งเป็นตกเบิกจาก 2 สัปดาห์รวมกัน
“กลุ่มที่ 3 นี้ขอให้สำรวจตัวเองก่อนว่าเข้าเงื่อนไข 1 ใช่ 6 ไม่ ใน 7 ข้อหรือไม่ ถ้ามีคุณสมบัติตามนั้นที่จะเข้าร่วมโครงการเราชนะได้ แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือเป็นผู้ที่ไม่มีความสามารถในการมีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็เชื่อว่าคนกลุ่มนี้ จะมีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งธนาคารของรัฐ ก็พร้อมจะช่วยในเรื่องการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการให้ได้” นายพรชัย ระบุ
นายพรชัย กล่าวว่า โครงการเราชนะนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าหรือผู้ให้บริการได้ครอบคลุมมากกว่าโครงการ “คนละครึ่ง” เพราะในโครงการเราชนะ จะสามารถซื้อสินค้าได้จากทั้งร้านธงฟ้า และร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และผู้ให้บริการรถโดยสารส่วนบุคคล เช่น รถแท็กซี่ และมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง
“การที่เพิ่มให้สามารถใช้บริการแท็กซี่ วินมอร์เตอร์ไซค์ได้ ก็เพื่อต้องการให้ลดความเสี่ยงจากการแออัดในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ส่วนกรณีของรถโดยสารสาธารณะคงจะพิจารณาแนวทางในอนาคตต่อไป” นายพรชัย กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่ให้บริการรถโดยสารส่วนบุคคลดังกล่าวที่ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการในโครงการเราชนะแล้ว จะได้รับสติ้กเกอร์ และต้องติดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน รวมทั้งจะต้องเตรียมความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร ในการเดินทางได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากโควิด
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ธนาคารได้ตระหนักถึงการให้ความสนใจของประชาชนอย่างมาก ในการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ จึงได้ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย โดยมั่นใจว่า ระบบจะรองรับการลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564
“เรามีประสบการณ์แล้ว จากทั้งตอนโครงการคนละครึ่ง เฟส 1 และ เฟส 2 ซึ่งเฟสแรก ระบบรองรับการเข้าลงทะเบียนพร้อมกันที่ 4 แสนราย/วินาที ส่วนเฟสสอง ขยาย capacity เป็น 8 แสนราย/วินาที และในโครงการเราชนะ จะเพิ่มเป็น 1.6 ล้านราย/วินาที เพราะเราตระหนักถึงความสนใจของประชาชน ที่จะมาลงทะเบียน จึงได้ประสานและซักซ้อมกับ Operator ผู้ให้บริการทั้ง 3 เครือข่ายไว้แล้ว” นายผยง กล่าว
สำหรับโครงการเราชนะซึ่งได้เพิ่มผู้ให้บริการในกลุ่มรถโดยสารส่วนบุคคล คือ แท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วยนั้น ขอให้ผู้ที่ต้องการร่วมโครงการ เข้าไปลงทะเบียนในฝั่งของผู้ให้บริการอิสระรายบุคคล ซึ่งถ้ายังไม่มีแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ให้ไปเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทยไว้ และธนาคารจะประสานเรื่องการโหลดแอปฯ ดังกล่าวไว้ให้ แต่ถ้าหากมีแอปถุงเงินอยู่แล้ว ก็สามารถเข้าเป็นผู้ให้บริการในโครงการเราชนะได้เลย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้นไทยปิดร่วง 15.63 จุด หลุด 1,500 จุด ต่างชาติเทขายพันล้าน!
- ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ ค่าโดยสาร 104 บาทไม่แพง! ‘กทม.’ ยืนยันเริ่มเก็บ 16 ก.พ.
- ‘ขนส่ง’ เปิดสถิติยอดจดทะเบียน ‘รถป้ายแดง’ 2563 วูบ 14%