นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ขณะนี้บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือปตท.สผ. และรัฐบาลอินโดนีเซีย เริ่มหารือร่วมกันเพื่อหาข้อยุติกรณีน้ำมันจากแหล่งมอนทารา ในออสเตรเลีย รั่วไหลลงสู่ทะเลติมอร์เมื่อปี 52 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนกลุ่มปตท.จะเริ่มกลับไปพิจารณาการลงทุนใหม่ในอินโดนีเซียอีกครั้งหรือไม่นั้น ยังต้องรอผลสรุปจากการหารือในครั้งนี้ก่อน
“ที่ผ่านมาที่มีการพยายามพบปะพูดคุยกันก็ได้จังหวะดี ๆ ตอนวันที่มีผู้นำของรัฐบาลอินโดนีเซียมาพบนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี มองว่ามันมีเหตุเกิดขึ้นก็ควรจะหาสาเหตุและหาข้อยุติที่เป็นธรรมกับ 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องกระบวนการทางศาลคงเป็นเรื่องที่ทางอินโดนีเซียเป็นคนตัดสินใจ เราไม่ก้าวก่ายเขา ถึงแม้จะเป็นกระบวนการของศาล แต่ก็ยังมีกระบาวนการที่จะหาข้อยุติไกล่เกลี่ยได้ เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าจะมีการกลับไปดำเนินการทางศาลอีกอย่างไร เมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยเป็นการพบปะจุดเริ่มที่ดีที่ทำให้รู้สึกว่ามีความพยายามที่จะพูดคุยกันเกิดขึ้น เอาข้อมูลเหตุผลมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย”นายเทวินทร์ กล่าว
ส่วนการที่มีข่าวว่ารัฐบาลมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามความคืบหน้าเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐและโอกาสทางการลงทุนของประเทศไทยในอินโดนีเซียนั้น นายเทวินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าภาครัฐจะมาช่วยดูแลอย่างไร แต่ตามปกติแล้วด้วยความที่ทั้งปตท. และปตท.สผ.มีความเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็จะมีสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ดูแลเรื่องกระบวนการตามแนวทางปฏิบัติของข้อกฎหมายอยู่แล้ว แต่หากภาครัฐจะใช้เวทีระหว่างประเทศ เข้าช่วยดำเนินการกระบวนการเจรจาหารือก็น่าจะทำให้มีช่องทางที่หารือกันได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามบรรยากาศระหว่างรัฐบาลไทยและอินโดนีเซียเป็นไปไปด้วยดี ก็น่าจะส่งผลให้ข้อขัดแย้งและข้อพิพาท ที่มีกลุ่มปตท.เข้าไปอยู่ในกระบวนการนั้น ก็จะสามารถดำเนินการไปด้วยบรรยากาศที่ดีมากกว่าเป็นบรรยากาศของความขัดแย้งอย่างเดียว โดยเชื่อว่าหากมีโอกาสก็จะไปทำความเข้าใจ เอาข้อมูลไปให้หารือร่วมกัน ขณะเดียวกันปตท.สผ. ซึ่งได้ดำเนินการในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในอินโดนีเซียอยู่แล้วก็คงจะดำเนินการเช่นนั้นอย่างต่อเนื่อง
