Economics

เรียกผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจง ต่อสัมปทาน ‘บีทีเอสสายสีเขียว’ ล่วงหน้า 30 ปี

คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เรียกตัวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าชี้แจง 24 ธ.ค. นี้ เหตุต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้บีทีเอส ล่วงหน้า 30 ปี ขณะ “ศุภชัย” ซัดกลับ “อัศวิน” พาดพิง “ศักดิ์สยาม” แทรกแซง 

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมาธิการคมนาคมเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ได้ทำหนังสือไปถึงหน่วยงานต่างๆ  โดยเฉพาะกทม. ให้เข้าชี้แจงวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร ต่อสัญญาสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีเขียว ล่วงหน้าถึง 30 ปี ให้กับบีทีเอส

รถไฟฟ้า ๒๐๑๒๑๘

นายโสภณ ระบุว่า ถ้าหากผู้ว่าราชการกทม. เข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ก็จะเป็นโอกาสที่ดี เพื่อที่คณะกรรมาธิการจะได้ซักถามข้อสงสัยทุกประเด็น เนื่องจากในการประชุมที่ผ่านมา ผู้แทนของกทม. ไม่สามารถชี้แจงได้ในหลายๆ ประเด็นที่ สอบถาม เรื่อง การต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก่อนหมดสัมปทานไปอีก 30 ปี โดยไม่มีการประมูลตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP)

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจมาก และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากกว่า 5 ล้านคน ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร จึงเป็นเรื่องที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร น่าจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุผล ที่มีการเสนอต่อสัมปทานไปอีก 30 ปีโดยไม่เปิดประมูล รวมทั้งเรื่องอัตราค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ซึ่งมีข้อสงสัยว่าคำนวณจากปัจจัยใด และราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็นจริงหรือไม่”

นายโสภณ เปิดเผยด้วยว่า อีก 1 ประเด็น ที่คณะกรรมาธิการคมนาคมให้ความสำคัญ ก็คือ เรื่องการจ้างเอกชนมาเดินรถ และไม่มีการจัดเก็บค่าโดยสาร จนก่อเกิดภาระหนี้สินมากกว่า 8,000 ล้านบาท

ประเด็นนี้ คณะกรรมาธิการมีข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีการจัดเก็บค่าโดยสาร เป็นเวลานานถึง 2ปี เมื่อมีภาระหนี้สินเกิดขึ้น ก็นำมาเป็นเหตุที่จะให้เอกชน มารับดำเนินโครงการแทน และเรื่องการจ้างเอกชนมาเดินรถ ยังเป็นประเด็นที่คณะกรรมการป.ป.ช. สอบสวนว่า ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

หากในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ไม่มาชี้แจง คณะกรรมาธิการการคมนาคม ก็จะสรุปตามข้อมูลที่หามาได้ และส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวดำเนินกา ต่อไป พร้อมแถลงข่าวให้สังคมรับทราบ และหากคณะกรรมาธิการการคมนาคม ยังติดใจก็จะดำเนินผ่านเวทีสภาฯ คือ การตั้งกระทู้ และ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีต่อไป

timeline 20201218 132836

ภท. ซัดกลับผู้ว่ากทม. พาดพิง “ศักดิ์สยาม”

วันเดียวกันนี้  ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกรณีที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายสัมปทานสายสีเขียวให้ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) โดยพาดพิงถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ว่า เข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อกระทรวงคมนาคม และนายศักดิ์สยาม เพราะไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่เกิดขึ้น เหตุผลที่กระทรวงคมนาคมเข้าไป ไม่ใช่เรื่องที่กระทรวงเข้าไปก้าวก่าย การทำงานของกรุงเทพมหานคร แต่เป็นหน้าที่ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง การดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ข้อ 6

ข้อกำหนดดังกล่าว ระบุุว่า ห้คณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบ และหากเห็นชอบ ให้ดำเนินการต่ออย่างไร หากไม่เห็นชอบให้ดำเนินการอย่างไร ซึ่งเขียนไว้ในคำสั่งทั้งหมด การเจรจาของคณะกรรมการตามคำสั่งคสช. ไม่ถือเป็นที่สุด และข้อเสนอของกทม. ต้องได้รับความเห็นชอบจากครม. ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอมาแล้ว หากครม.ไม่ให้ความเห็นชอบก็ต้องนำกลับไปพิจารณากันใหม่

กระทรวงคมนาคม นำเสนอความเห็นในฐานะผู้มีส่วนร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ขอความเห็น ในฐานะที่กำกับดูลกรมการขนส่งทางราง ซึ่งต้องกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการขนส่งทางราง มาตรฐานด้านความปลอดภัย มาตรฐาน การบำรุงทาง มาตรฐานการประกอบกิจการ มาตรฐานผู้ประจำหน้าที่ รวมทั้งการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน

“กระทรวงคมนาคม ไม่ได้ยุ่งหรือก้าวก่ายกิจการของกทม. แต่เป็นการกำกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และกทม. ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และกทม.ในฐานะผู้ประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ได้รับสิทธิพิเศษหรือข้อยกเว้นใดๆให้อยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมเสนอความเห็นโดยคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นสูงสุด ไม่ใช่ประโยชน์ของเอกชนสูงสุด”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo