Economics

ด่วน!! ททท.พบพฤติกรรมโกง ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ จ่อดำเนินคดีเด็ดขาด

“ททท.” พบพฤติกรรมโรงแรม 312 แห่งฉ้อโกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาดเป็นการร่วมมือระหว่างโรงแรมและผู้ได้รับสิทธิ์ ยืนยันผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องถูกดำเนินคดี

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงว่า ททท.ได้ตรวจสอบพบการทุจริตในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โดยตรวจสอบพบพฤติกรรม และธุรกรรมน่าสงสัย ว่า ทำการทุจริต 312 โรงแรม ร้านค้า 202 ร้านค้า โดยเป็นการร่วมมือกับผู้ใช้สิทธิ์โกงโครงการรัฐ โดยจะใช้เวลา 1 เดือน ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีสูงสุดทั้งแพ่งและอาญา

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบส่วนใหญ่พบว่า เป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่ก็มีโรงแรมใหญ่ร่วมด้วย โดยทำทุจริตกันเป็นกระบวนการ โดยมีวิธีการโกงรวม 6 รูปแบบ ทั้งนี้ ททท.พร้อมเปิดชื่อโรงแรมที่โกงเมื่อตรวจสอบเสร็จ

อย่างไรก็ตาม ททท.ได้ประสานกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยการฉ้อโกงที่เกิดขึ้น จะถูกแจ้งความเพื่อดำเนินคดี กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่วนที่ ครม.มีมติเพิ่มห้องพักอีก 1 ล้านห้องนั้นจะต้องดูความพร้อมของระบบก่อน ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่วันที่ 16 ธันวาคมนี้

ยุทธศักดิ์ สุภสร
นายยุทธศักดิ์ สุภสร

อาจจะต้องขอเลื่อนการจองโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2 ออกไปสักระยะ หลังพบอาจมีโรงแรมทุจริตประมาณ 312 แห่ง ทราบชื่อโรงแรมทั้งหมด ร้านค้า ประมาณ 200 แห่ง ต้องประสานกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย เพื่อตรวจสอบ เอาผิดทั้งคดีแพ่ง และอาญา นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการฉ้อโกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนค่าห้องพัก 40% แต่ไม่เกินคืนละ 3,000 บาท ให้ผู้ร่วมรับสิทธิ์ค่าโรงแรมที่พัก 5 ล้านคืน โดยได้รับคนละ 10 คืน

โดยเริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2564 และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ขยายไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 และเพิ่มห้องพักให้อีก 1 ล้านห้อง เป็นรวม 6 ล้านห้อง ขณะที่ล่าสุด ห้องพัก 5 ล้านห้องแรกมีผู้ใช้สิทธิ์จองไปครบ คงเหลือจำนวนศูนย์ห้องแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังเหลือจำนวนห้องพัก 225,922 คืน ตั๋วเครื่องบิน 1.68 ล้านใบ แต่ได้หมดลงในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ซึ่งล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประสานกับกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ทำการวิเคราะห์ธุรกรรม ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และประสานงานกับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อหาทางป้องกันการหลอกลวงในอนาคต

ทั้งนี้ การจองที่รวดเร็วเป็นพิเศษ อาจได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการออกท่องเที่ยวสูงในช่วงไฮซีซั่น แต่ต้องตรวจสอบธุรกรรมเหล่านั้น เพื่อดูว่า มีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งรูปแบบการฉ้อโกงพบได้อย่างสม่ำเสมอ ในแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวหลายรายการที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ และรัฐบาลพยายามมากขึ้น ในการหาแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo