Economics

ร้านธงฟ้าฯ-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินสะพัด ‘แสนล้าน’ ปี 61

เฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า รายงานว่าช่วงที่ผ่านมา บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด มีเสียงตอบรับจากผู้มีรายได้น้อยเป็นอย่างดี

ร้านประชารัฐ สหพัฒน์

ผู้ถือบัตรบางรายเป็นคนเดียวในครอบครัวที่มีบัตรสวัสดิการฯ ซึ่งมีวงเงินค่าใช้จ่ายในบัตรจำนวน 300 บาท และได้นำไปซื้อของในร้านธงฟ้าฯ ทั้งข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา ผงซักฟอก ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำให้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

ส่วนเจ้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ ยอมรับว่าการซื้อขายสินค้ามีความสะดวกรวดเร็ว เมื่อนำบัตรไปรูดชำระเงินที่เครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ช่วยให้ร้านมียอดขายและรายได้มากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ จะมีคุณภาพเช่นเดียวกับในท้องตลาดทั่วไปแล้ว สินค้าบางชนิดยังมีราคาถูกกว่าด้วย เพราะภาครัฐและผู้ผลิตสินค้าต้องการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน

ครอบคลุมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน แชมพูสระผม ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน สินค้าปัจจัยทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี รวมถึงยารักษาโรค และอาหารสด เช่น ไข่ไก่ เป็นต้น ยกเว้นกลุ่มสุรายาสูบ ที่ไม่สามารถนำบัตรสวัสดิการไปรูดซื้อได้

เมื่อร้านธงฟ้าฯ มีลูกค้ามากขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนพ่อค้าแม่ขายที่สนใจเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐเพิ่มขึ้นกว่า 50,000 ราย มีทั้งร้านค้าที่สะดวกใช้เครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และร้านค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระค่าสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ”

ร้านธงฟ้าประชารัฐ
ภาพ www.shop.moc.go.th

ร้านธงฟ้าฯ ไม่ได้ขายแต่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปเท่านั้น เพราะรัฐบาลยังส่งเสริมให้ผู้ขายนำสินค้าชุมชน สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าโอทอป ประจำถิ่น ไปวางขายภายในร้าน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

เรียกได้ว่า win-win กันทุกฝ่าย ทั้งผู้ถือบัตรฯ ที่ได้ลดค่าครองชีพ ผู้ค้ารายย่อยมีความเข้มแข็งขึ้น และผู้ผลิตสินค้าชุมชนมีช่องทางการขายสินค้ามากขึ้นด้วย

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ที่นำบัตรฯ ไปรูดซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 20 กันยายน 2561 พบว่า มียอดซื้อสินค้ารวมกว่า 41,000 ล้านบาท

โดยกว่า 20,000 ล้านบาท เป็นการซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตร และคาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจราว 100,000 ล้านบาท ในปี 2561

สำหรับสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตรที่ได้รับความนิยม คือ ข้าวสาร ผัก กระเทียม หอมแดง ขนมเปี๊ยะ เค้ก กล้วยตาก กล้วยฉาบ ข้าวแต๋น น้ำพริก และผลไม้ตามฤดูกาล เช่น แตงโม ทุเรียน มะนาว สับปะรด

รัฐบาลตั้งเป้าให้มีร้านธงฟ้าฯ จำนวน 100,000 ร้าน เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ค้า และส่งเสริมช่องทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม และกำหนดเป้าหมายให้มีเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ในปี 2562

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight