Economics

ลุ้น คนละครึ่งเฟส 2 ‘ศบศ.’ จ่อขยายวงเงินแบบจัดหนัก จัดเต็ม!

คนละครึ่งเฟส 2 จับตาที่ประชุม “ศบศ.” บ่ายนี้ จ่อพิจารณาขยายวงเงินคนละครึ่งเป็น 4,500 บาท ก่อนเสนอครม.เคาะสัปดาห์หน้า พร้อมพิจารณาปรับโฉม “เราเที่ยวด้วยกัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ธ.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากโควิด-19 ( ศบศ.) จะมีการประชุม โดยมีวาระสำคัญ อาทิ การขยายโครงการ คนละครึ่งเฟส 2 และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ปรับปรุง เงื่อนไขรายละเอียด เข้าหารือในที่ประชุม ศบศ.ก่อนนำเสนอ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ คาดว่า ในการประชุมวันนี้ จะมีการหารือในเรื่อง การให้สิทธิกับประชาชน ผู้ลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 2 เพิ่มเติม และการขยายโครงการ ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนในเฟส 1 ไว้ โดยจะมีแนวทางที่จะหารือกัน ในประเด็นของจำนวนวงเงิน ที่อาจจะขยายเป็น 4,500 บาท แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้ได้รับสิทธิลงทะเบียนเฟสแรก ต้องใช้วงเงิน 3,000 บาท ให้หมดภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563

คนละครึ่งเฟส 2

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจเศรษฐกิจ จากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ให้พิจารณารายละเอียด และหลักเกณฑ์โครงการ คนละครึ่งเฟส 2 และ การขยายโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่ม ตามที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางเพิ่มเติม โดยในรายละเอียดจะต้องรอคณะกรรมการสรุปอีกครั้ง

สำหรับโครงการ คนละครึ่ง ที่ผ่านมา นายพรชัย กล่าวว่า ล่าสุด ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.7 แสนร้านค้า และผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,515,956 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 31,777 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 16,226 ล้านบาท และ ภาครัฐร่วมจ่ายอีก 15,551 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 184 บาทต่อครั้ง

โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชลบุรี ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้ร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือ ดำเนินการด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบประชาชน และ ทำลายบรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอย

อีกทั้งเป็นการดำเนินการที่ผิดเงื่อนไขของโครงการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ให้แก่ประชาชน ตลอดจนช่วยให้ร้านค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ หากพบพฤติกรรม การขึ้นราคาสินค้าหรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ อาทิ การรวมค่าบริการอินเตอร์เน็ตมือถือของร้านค้าอยู่ในราคาสินค้า ท่านสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการสามารถส่งข้อมูลมที่ [email protected] หรือติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509 (เวลาราชการ) หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)

กระทรวงการคลัง ได้มีการประสานขอความร่วมมือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตาม และตรวจสอบประเด็นดังกล่าวด้วยแล้ว หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชัน ตลอดจนการจ่ายเงินของร้านค้าทันที และอาจจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอความร่วมมือร้านค้า ให้ซื่อสัตย์ต่อประชาชน และขอให้ประชาชนรักษาสิทธิของตัวเองด้วย โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการอย่างเคร่งครัด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo