ลงทะเบียนคนละครึ่ง รอบ 2 สำเร็จแล้วต้องทำอย่างไรต่อ ที่นี่มีคำตอบ เผยล่าสุดมียอดใช้จ่ายแล้วกว่า 11,889 ล้านบาท เตือนผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว อย่าลืมติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเติม จำนวน 2.5 ล้านสิทธิ ภายใต้กลุ่มเป้าหมาย 10 ล้านสิทธิ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 (11/11) ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างมากและลงทะเบียนครบจำนวนในเวลาอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อ ลงทะเบียนคนละครึ่ง รอบ 2 สำเร็จ ระบบจะทำการตรวจสอบและส่ง SMS แจ้งผลการลงทะเบียนภายใน 3 วัน สำหรับยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและยอดผู้ที่ได้รับสิทธิที่ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน จะมีการรวบรวมมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใหม่ต่อไป
รองโฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้รีบติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย โดยท่านสามารถเติมเงิน จำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการเข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก็จะสามารถใช้สิทธิซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ ท่านจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีก
นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,410,937 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 11,889 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 6,059 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 5,830 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 210 บาทต่อครั้ง
โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ
ทั้งนี้ รองโฆษกกระทรวงการคลัง ได้ขอความร่วมมือประชาชน และร้านค้า ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้ร้านค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เนื่องจาก จะเป็นการเอาเปรียบประชาชนและทำลายบรรยากาศของการจับจ่ายใช้สอย ตามโครงการคนละครึ่ง
อีกทั้งประชาชน โปรดอย่าหลงเชื่อ การเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ในการช่วยดำเนินการโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุน ให้เกิดการกระทำความผิดและมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการ โดยหากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำผิดจริง จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชันและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที
รองโฆษกกระทรวงการคลัง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน เพื่อรักษาระดับการบริโภคของประชาชนและกระจายรายได้ไปยังร้านค้ารายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับวิธียืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” มีดังนี้
1. พิมพ์ค้นหา “เป๋าตัง” ในช่องค้นหา APP Store หรือ Google Play หรือ Play Store
2. เลือก “ติดตั้ง”
3. ระบุ เบอร์มือถือ
4. ยืนยัน OTP 6 หลักที่ได้รับจาก SMS ตามเบอร์ที่กรอกในหน้าแรก
5. กดเลือกยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ และกด ตกลง
6. ระบุ PIN เป็นตัวเลข 6 หลักเป็นรหัสที่ต้องใช้ในการทำรายการทุกครั้ง
7. ยืนยันการตั้งค่ารหัส PIN 6 หลัก
8. ผูกบัญชี หรือเปิด G-Wallet ได้จากหน้านี้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่นได้ หรือยืนยันตัวตนไม่ผ่าน สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตน โครงการ “คนละครึ่ง” ไม่ผ่านทำเองได้ที่ “ตู้ ATM สีเทา” รุ่นใหม่ของธนาคาร โดยไม่ต้องไปที่สาขา โดยทำตามวิธีต่อไปนี้
1. นำบัตรประชาชนไปทำการยืนยันตัวตนผ่านตู้ ATM กรุงไทย
- เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน” (ไม่ต้องใช้บัตร ATM)
- ยืนยัน “การเป็นเจ้าของบัตรประชาชน”
- ยินยอมให้ “เปิดเผยข้อมูลพิสูจน์ตัวตน”
- เสียบบัตรประชาชน รอระบบตรวจสอบข้อมูลยืนยันตัวตนของท่าน
- เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จนำบัตรประชาชนออก และดำเนินการต่อบนแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เป็นอันเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการครบ ก็สามารถใช้จ่ายกับร้านค้า ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คที่นี่! คลังเตรียมเปิด ‘คนละครึ่ง’ เฟส 2 ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
- คนละครึ่งรอบ 2 เตรียมเปิดลงทะเบียนพรุ่งนี้ เช็ควิธีใช้แอป ‘เป๋าตัง’ ที่นี่!
- สั่งฟัน 3 ร้านค้าขี้โกง ‘คนละครึ่ง’ ถอดออกจากโครงการพร้อมดำเนินคดี