Economics

‘สภาวิศวกร’ จี้ ‘ทอท.’ เปิดผลศึกษาความคุ้มค่าเทอร์มินอล 2

กมล ตรรกบุตร

“สภาวิศวกร” จี้ “ทอท.” เปิดผลการศึกษาความคุ้มค่าเทอร์มินอล 2 สุวรรณภูมิ หวั่นอาคารรับผู้โดยสารไม่ถึง 30 ล้านคนตามที่อ้าง

​นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร เปิดเผยในงานเสวนามาตรฐานความปลอดภัยกับอาคารสนามบิน วันนี้ (28 ก.ย.) ว่า การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนแม่บท (Master Plan) สนามบินสุวรรณภูมิฉบับเดิมปี 2533 ซึ่งแผนแม่บทฉบับปี 2533 วางแผนการใช้พื้นที่เป็นอย่างดีและมีการประชาพิจารณ์มาอย่างยาวนาน

​สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจึงกังวลว่า อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 อาจตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้การก่อสร้างไม่คุ้มค่า ไม่สามารถรองรับรองการจราจรทางอากาศถึง 30 ล้านคน/ปี และทำให้การจราจรทางถนนคับคั่ง

​ดังนั้น สภาวิศวกรจึงขอเรียกร้องให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิ ออกมาเปิดเผยรายละเอียดแผนแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิในเชิงวิชาการและเชิงพาณิชย์ว่า แผนแม่บทฉบับใหม่ดีกว่าแผนเดิมอย่างไร พร้อมขอให้ยืนยันว่าอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 30 ล้านคนต่อปีตามที่ ทอท. กล่าวอ้างหรือไม่

​รวมทั้งขอให้ ทอท. ในฐานะรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ในการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างขนาดใหญ่ เนื่องจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ปี 2560 ยึดหลักการ 4 ด้าน คือ คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้

“ผลการศึกษาเรื่องแผนแม่บทของ ทอท. ไม่ได้ปรากฏออกมาว่า การปรับเปลี่ยนมีความคุ้มค่าไหม จึงต้องการให้ ทอท. ออกมาชี้แจงให้ประชาชนและหน่วยงานภาคนอกรับทราบด้วยว่า ความคุ้มค่าของอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 เป็นอย่างไร รับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนจริงไหม” นายกมล กล่าว

S 68116502

​นอกจากนี้ สภาวิศวกรเสนอให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้ คือขอให้ ทอท. ทบให้ทบทวนความเหมาะสมของอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 เพื่อให้มีความเหมะสมทุกๆ ด้าน ทั้งพื้นที่การใช้งาน การจราจรทางอากาศและภาคพื้นรวมถึงส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ​และขอให้ ทอท. ปฏิบัติตามแผนแม่บทปี 2533 ไม่ใช่พัฒนาตามแผนแม่บทฉบับใหม่ที่จัดทำขึ้นในปี 2557 แต่ถ้าหาก ทอท. ยืนยันจะใช้แผนแม่บทฉบับปัจจุบันต่อไป ก็คงต้องเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล

​นายอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศกร เปิดเผยว่า สภาวิศวกรกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิหลายด้าน เช่น แผ่นดินไหว เพราะสนามบินตั้งอยู่ในพื้นที่ดินอ่อน, ลมพายุที่มีความรุนแรงมากขึ้น, การก่อวินาศกรรม รวมถึงด้านอัคคีภัย

​อย่างไรก็ตาม การประกวดออกแบบอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ยังอยู่ในขั้นประกวดแนวคิดในการออกแบบเท่านั้น ไม่ใช่แบบที่จะนำไปใช้จริง จึงยังไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้เต็มที่ แต่ก็มีข้อเสนอว่า วัสดุหลักของอาคารต้องเป็นแบบทนไฟ ด้านวัสดุตกแต่งก็ต้องไม่เป็นเชื้อไฟหรือติดไฟ และผ่านการทดสอบว่าไม่เก็บความร้อน

​สำหรับแบบอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ซึ่งชนะการประกวด ที่มีลักษณะเหมือนใช้ไม้ประดับตกแต่งนั้น ในทางปฏิบัติก็สามารถใช้วัสดุอื่นทดแทนได้ เช่น ใช้เทคนิคซีเมนส์แบบบางแล้วเสริมเส้นลวดข้างใน ซึ่งสามารถตกแต่งให้มีลักษณะเหมือนไม้ หรือถ้าจะใช้ไม้ที่มีเทคโนโลยีทนไฟในการตกแต่ง วัสดุดังกล่าวก็ต้องผ่านมาตรฐานการทนไฟจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน แต่ราคาอาจจะสูง จึงเป็นห่วงว่าจะทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างสูงขึ้นตามไป

“ภาพรวมไม่สามารถพูดได้ 100% เพราะเรายังไม่เห็นรายละเอียดรูปแบบ สเกล ราคา ฯลฯ แต่ในฐานะที่เป็นสภาพวิศวกร ก็ต้องการส่งเสียงเตือน โดยสภาวิศวกรอาจจะทำข้อเสนอแนะดังกล่าวส่งถึง ทอท. ในเร็วๆ นี้” ศ.ดร.อมรกล่าว

Avatar photo