“นิตินัย” เริ่มลั่นกลองรบ! เตรียมดันเปิดประมูลดิวตี้ฟรีในเดือน ต.ค. นี้ พร้อมร่างทีโออาร์ไว้หลายเวอร์ชันรองรับปัจจัยเรื่องเทอร์มินอล 2 และสายการบินไทย
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า การประมูลพื้นที่สินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ในสนามบินสุวรรณภูมิ ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนใน 2 เรื่อง คือ การประกวดออกแบบอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 และการตัดใจเลือกอาคารผู้โดยสารของสายการบินไทย
ปัจจุบัน ทอท. ได้ร่างเงื่อนไขการประมูล (TOR) ดิวตี้ฟรีไว้หลายรูปแบบ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 เรื่อง โดยถ้าหากทั้ง 2 เรื่องมีความชัดเจน ก็จะเลือกร่างทีโออาร์ที่เหมาะสม แล้วเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นตั้งเป้าจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาในเดือนตุลาคมนี้ และถ้าหากบอร์ดเห็นชอบก็สามารถเปิดประมูลได้ทันที
สำหรับประเด็นเรื่องการประกวดแบบอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น ปัจจุบันฝ่ายกฎหมายของ ทอท. กำลังพิจารณาว่าจะสามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะการประกวดได้ทันทีหรือไม่ ถ้าหากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าสามารถลงนามได้ทันที ทอท. ก็จะรวมพื้นที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 เข้าไปในสัญญาดิวตี้ฟรีด้วย แต่ถ้าหากไม่สามารถลงนามสัญญาได้ตามเป้าหมาย ก็จะตัดพื้นที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ออกจากสัญญาดิวตี้ฟรี ส่งผลให้การประมูลดิวตี้ฟรีเหลือพื้นที่เพียง 2 ส่วน คือพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 และพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite)
“ตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า ทอท. รัดกุมเรื่องการประกวดออกแบบเทอร์มินอล 2 แสดงว่ามีโอกาสจะรวมพื้นที่เทอร์มินอล 2 ไว้ในการประมูลดิวตี้ฟรีด้วย โดย ทอท. ตั้งเป้าจะเสนอผลการศึกษาและทีโออาร์ดิวตี้ให้บอร์ดเห็นชอบในเดือนตุลาคม แต่ถ้าอนุกรรมการกฎหมายขอเวลาเพิ่ม การประมูลดิวตี้ฟรีก็อาจจะล่าช้าออกไปบ้าง แต่ช้าก็ดีกว่าแพ้ฟาล์วทีหลัง” นายนิตินัย กล่าว
ในขณะเดียวกัน ทอท. ก็จะหารือกับสายการบินไทยว่า การบินไทยจะย้ายจากอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ไปอยู่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือไม่ เนื่องจากการบินไทยมีผู้โดยสาร 26-27 ล้านคน/ปี ถ้าหากการบินไทยเลือกจะอยู่อาคารผู้โดยสารแห่งใด ก็จะมีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารและมูลค่าดิวตี้ฟรีในแต่ละพื้นที่อย่างมาก เช่น ถ้าการประมูลดิวตี้ฟรีรวมพื้นที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 และการบินไทยตัดสินใจย้ายไปอยู่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ด้วย ก็จะทำให้ปริมาณผู้โดยสารและราคาประมูลดิวตี้ในอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 มีแนวโน้มสูงมากขึ้น
สำหรับระยะเวลาการให้สัมปทานดิวตี้ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องพิจารณามูลค่าการลงทุนและจุดคุ้มทุนของเอกชนก่อน จากนั้นจึงบวกระยะเวลาทำกำไรเข้าไป เช่น ถ้าจุดคุ้มทุนของเอกชน อยู่ที่ 2 ปี ก็ควรให้เวลาสัมปทาน 5 ปี หรือถ้าจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 6-7 ปี ก็จะให้สัมปทาน 10 ปี เพื่อให้เอกชนมีระยะเวลาทำกำไรอีก 3 ปี
จ่อเปิดประมูลอีก 3 โครงการ 7 หมื่นล้านบาท
นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา (สภาพัฒน์) จะพิจารณางบประมาณโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ 3 งานพร้อมกันในปลายปีนี้ ได้แก่ การก่อสร้างทางวิ่ง (Runway) แห่งที่ 3 วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท, การขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ด้านทิศตะวันตก วงเงิน 6.6 พันล้านบาท และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 วงเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งแห่งที่ 3 เมื่อผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒน์แล้ว คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในปลายปีนี้ หลังจากนั้นก็จะเปิดประมูลได้ทันทีและทราบรายชื่อผู้ชนะการประมูลไม่เกินปลายปี 2562 จากนั้นจึงใช้เวลาก่อสร้างอีก 33 เดือนหรือแล้วเสร็จในปี 2565
อย่างไรก็ตาม ทอท ต้องรอให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) จึงลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลได้ แต่คาดว่าไม่มีปัญหาใดๆ และรายงานอีไอเอน่าจะได้รับความเห็นชอบในเร็วๆ นี้ สำหรับมูลค่าโครงการ 2.2 หมื่นล้านบาทนั้น จะแบ่งเป็นค่าก่อสร้างและค่าชดเชยให้กับประชาชนอย่างละ 50%
ด้านการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิ แม้จะได้รับความเห็นชอบเรื่องงบประมาณจากสภาพัฒน์และรัฐบาลแล้ว ก็ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้ เพราะต้องรอความชัดเจนเรื่องการออกแบบก่อน จึงคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2562
สำหรับงานขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ด้านทิศตะวันตก เมื่อผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒน์และ ครม. แล้ว ก็คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปลายปีนี้ โดยจะทำให้พื้นที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 เพิ่มขึ้นกว่า 6 หมื่นตารางเมตรและรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านคน/ปี
