รัฐบาลมีโครงการจ่ายเงินชดเชยรายได้ 15,000 บาทแก่ ประกันสังคมมาตรา 33 จำนวนเกือบ 6 หมื่นคนทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ประกันตนกลุ่มนี้จ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือนย้อนหลังตามเงื่อนไข จึงตกหล่น “ไม่ได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยไวรัสโควิด-19” ในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน
โดยสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินงวดแรกไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2563 แต่ยังไม่ครบทุกคน เพราะติดปัญหาเรื่องข้อมูลการจ่ายเงิน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงยืดระยะเวลาการจ่ายเงินของโครงการออกไปอีก 2 เดือน เป็นสิ้นเดือนตุลาคมนี้
หากใครอยู่ในข่ายผู้มีสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ก็ขอให้รอลุ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์ได้รับเงิน 15,000 บาท ไม่ต้องเดินทางไปติดต่อยังสำนักงานประกันสังคมแต่อย่างใด และเมื่อโอนเงินแล้ว สำนักงานประกันสังคมจัดส่งข้อความผ่านระบบ SMS แจ้งให้ผู้ประกันตนทราบทันที!
คุณสมบัติ 5 ข้อได้เงิน 15,000 บาท
สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติ รับเงินชดเชยรายได้ 15,000 บาท จะต้องมี 5 คุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบ ประกันสังคม
- สัญชาติไทย
- อยู่ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563
- จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือน นับย้อนหลังตั้งแต่งวดเดือนมีนาคม 2563 ขึ้นไป
- ไม่เคยได้รับเงินเยียวยาจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่อย่างใด
วิธีเช็คสิทธิ์ “ประกันสังคม” ได้รับ 15,000 บาท
ประกันสังคมมาตรา 33 สามารถเช็คสิทธิ์ว่า ตนเองเข้าข่ายได้รับเงินชดเชยรายได้จำนวน 15,000 บาทดังกล่าวหรือไม่ ตามขั้นตอนดังนี้
1.เข้าสู่เว็บไซต์ประกันสังคม ที่นี่ จากนั้นคลิกปุ่ม “ตรวจสอบสิทธิ์มาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา”
2.กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และ กรอกรหัสตัวเลขให้ตรงกับรูปภาพ แล้วคลิกปุ่ม “ตรวจสอบสิทธิ์”
3.ระบบจะแสดงผลว่า ผู้ประกันตนมีสิทธิ์ได้รับเงิน 15,000 บาท หรือไม่
ประกันสังคมมาตรา 33 คือใคร?
ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบกองทุนประกันสังคม คือ ลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป หรือเรียกง่ายว่า “พนักงานเอกชน” ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ และอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 มีจำนวน 11 ล้านคน จากผู้ประกันตนทั้งหมด 3 ประเภท จำนวน 16 ล้านคน
ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองตามปกติ 7 กรณี ดังนี้ เจ็บป่วย เสียชีวิต ว่างงาน คลอดบุตร ทุพพลภาพ ชราภาพ และสงเคราะห์บุตร
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ยังได้รับความคุ้มครองกรณีที่ 8 คือ ว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 ถ้าหากผู้ประกันตนถูกกักตัว หรือปิดกิจการชั่วคราว เพราะไวรัสโควิด-19 ระหว่างเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2563 แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบเกิน 6 เดือนและไม่ได้รับค่าจ่ายในช่วงดังกล่าว
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบไม่เกิน 6 เดือน ภายใน 15 เดือน จะไม่สามารถรับเงินทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 จากกองทุนประกันสังคม ส่งผลให้รัฐบาลมีมตินำเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มาจ่ายชดเชยรายได้ให้ผู้ประกันตนกลุ่มนี้ 15,000 บาทต่อคน จำนวนทั้งหมดเกือบ 6 หมื่นราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ครม.’ อนุมัติเพิ่ม ‘ค่าทำศพ’ ประกันสังคมมาตรา 40 จำนวน 5,000-10,000 บาท
- ตุลาคม 2563 ‘ประกันสังคม’ ลดส่งเงินสมทบเป็นเดือนที่ 2
- ‘เงินชราภาพ’ ประกันสังคม เรื่องสำคัญที่ลูกจ้างทุกคนต้องรู้!