GPSC ยันซื้อหุ้น GLOW ไม่ผูกขาด กำลังผลิตเป็นอันดับ 3-4 ของตลาด พร้อมเดินสายเคลียร์ 10 ลูกค้าซื้อไฟฟ้า GLOW ลดข้อกังวล ชี้ซื้อขายหุ้นครั้งนี้ดึงเงินและทรัพย์สินกลับเข้าประเทศ
วันนี้(18ก.ย.) ผู้บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงกรณีการซื้อหุ้น บริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW ) 69.11 % จาก บริษัท เอ็นจี โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ( Engie ) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GLOW
นายสุรงค์ บุลกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กล่าวยืนยันว่า การซื้อหุ้น GLOW ครั้งนี้ ไม่ทำให้มีการผูกขาด เพราะหลังการซื้อหุ้น GLOW บริษัทมีสัดส่วนการผลิตเพียง 6.9% ของตลาด เป็นอันดับ 3-4 ของประเทศ อันดับ 1 คือ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) อันดับ 2 บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) เอ็กโก และ GPSC มีสัดส่วนเท่ากัน ทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มจาก 1,900 เมกะวัตต์ เป็น 5,000 เมกะวัตต์
สำหรับดีลซื้อขายครั้งนี้ทุกอย่างมีกฎหมายควบคุม และเราเองไม่มีเจตนาผูกขาด เพราะทำไม่ได้ นอกจากนี้ ยังผ่านมติจากผู้ถือหุ้นเป็นที่เรียบร้อยด้วยเสียง 99.98% อนุมัติให้ทำธุรกรรม ดังนั้นการดำเนินธุรกรรมครั้งนี้ไม่ขัดกฎหมายแน่นอน
นอกจากนี้ กิจการไฟฟ้าเป็นการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม โดยลูกค้ามีทางเลือก เพราะมีผู้ผลิตหลายราย แต่รายต่างก็มีกำลังผลิตส่วนเกิน ประกอบกับไฟฟ้าเก็บไม่ได้ หากไม่มีคนซื้อบริษัทอยู่ไม่ได้ ดังนั้นผู้ผลิตต้องมีประสิทธิภาพ ลูกค้าจึงจะเลือกซื้อไฟฟ้า
“ตอนนี้ลุูกค้าเลือกซื้อจากใครก็ได้ ลูกค้าคือ พระเจ้า และการทำสัญญากับกับผู้ซื้อไฟฟ้าก็อยู่ในบริบทเชิงพาณิชย์ สัญญา คือ สัญญา เราไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่หากลูกค้าต้องการแก้สัญญา ก็ต้องคุยและคงต้องทำบันทึกความตกลงกัน “
นายสุรงค์ กล่าวต่อว่านโยบายชัดเจนว่า ประเทศไทยจะต้องไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 มีพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นพื้นที่หลัก ซึ่งพื้นที่นี้ คือ บ้านปตท.โดยมี GPSC ทำหน้าที่สนับสนุนการจัดหาไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ การรวมกันของ GPSC และ GLOW จะนำมาซึ่งความแข็งแกร่ง นอกเหนือจากการที่กลุ่มปตท.ได้สร้างความมั่นคงด้านน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ทำให้ EEC เกิดความสมบูรณ์
เขา ย้ำว่า GPSC เข้าไปใน GLOW เป็นในฐานะผู้ถือหุ้น ไม่ได้เข้าไปบริหาร ดีลการซื้อขายครั้งเป็นดีลเชิงพาณิชย์ หากลูกค้าที่ซื่้อไฟ ไม่เข้าใจก็ต้องหารือ และขอยืนยันว่า การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ เป็นการซื้อทรัพย์สินที่ถือโดยต่างชาติมาให้คนไทย เป็นทรัพย์สินในประเทศไทย เงินปันผลจากผู้ถือหุ้นที่เคยเป็นของต่างชาติ ก็กลับมาให้คนไทยปีละ 5,000 ล้านบาทจากที่ไหลไปต่างประเทศ
“จนถึงตอนนี้ คุณกรณ์ จาติกวณิช ไม่ได้เชิญเราไปคุยด้วย หากเชิญก็จะไป และเราเป็นเอกชนไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ยืนยันอีกครั้งว่า กระบวนการทุกอย่างต้องโปร่งใส หากโน่นก็ไม่ให้ทำ นี่ก็ไม่ได้ทำ แล้วจะให้เราทำอะไร นี่คือบทบาทของเรา ถึงแม้ไม่มีดีลนี้เราก็ต้องมีกิจกรรมอื่น ต้องก้าวหน้า เช่น โครงการพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน (energy storage) ที่จะเข้ามาชัดเจนหลังจากนี้ เราก็ต้องทำ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า”
สำหรับกรณีที่ลูกค้าของ GLOW กังวลว่าความลับทางการค้ารั่วไหลนั้น ขอยืนยันว่า ข้อมูลลูกค้าไม่มีการเปิดเผย ไม่มีการได้เสียเปรียบ การซื้อขายไฟฟ้าอยู่บนสัญญา ธุรกิจนี้แข่งขันที่ประสิทธิภาพมากกว่า สำหรับลูกค้าของ GPSC ที่เราขายนอกกลุ่มปตท. ก็รู้สึกพอใจ เพราะเราดูแลลูกค้าทุกคน และเราก็ก้าวหน้ามาตามลำดับ
ขณะที่นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ
“เราผลิตไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงให้กับลูกค้าทุกคน ขณะนี้การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของ GLOW อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เราพร้อมน้อมรับผลการตัดสิน “