เพื่อลดผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำจากไวรัสโควิด-19 สำนักงานประกันสังคมจึงได้ออกมาตรการ ลดเงินสมทบ เข้ากองทุน ประกันสังคม เฟสที่ 2 สำหรับนายจ้างและลูกจ้าง โดยจะเริ่มมีผลในเดือนกันยายน 2563 นี้เป็นงวดแรก
ดังนั้น ช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ นายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 จึงได้เฮ! เพราะจะมีเงินติดกระเป๋าเพิ่มขึ้นระหว่าง 336-450 บาท
รายละเอียด ลดเงินสมทบ “ประกันสังคม” เฟส 2
มาตรการลดเงินสมทบ ประกันสังคม เฟสที่ 2 จะลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เหลือ 2% เป็นระยะเวลา 3 เริ่มตั้งแต่การจ่ายค่าจ้างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2563
ผลกระทบ คือ นายจ้างจะมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นสูงสุด 450 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จะมีเงินติดกระเป๋าเพิ่มขึ้นสูงสุด 336-450 บาทต่อเดือน ดังนี้
- นายจ้างของผู้ประกันตนมาตรา 33
ปกติส่งเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน หรือสูงสุดไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ให้ลดเหลือ 2% ของค่าจ้างผู้ประกันตน หรือสูงสุดไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน ส่งผลให้นายจ้างเหลือเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นสูงสุด 450 บาทต่อเดือน
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 (พนักงานเอกชน)
ปกติส่งเงินสมทบ ประกันสังคม ในอัตรา 5% ของค่าจ้าง หรือสูงสุดไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ให้ลดเหลือ 2% ของค่าจ้าง หรือสูงสุดไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน ส่งผลให้ลูกจ้างเหลือเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นสูงสุด 450 บาทต่อเดือน
- ผู้ประกันตนมาตรา 39 (ผู้เคยเป็นลูกจ้างมาตรา 33 มาก่อน แต่ได้ลาออกจากบริษัทเอกชนแล้ว)
ได้รับการลดหย่อนเงินสมทบจาก 9% ของฐานเงิน 4,800 บาท หรือ 432 บาทต่อเดือน เหลือ 2% ของฐานเงิน 4,800 บาท หรือ 96 บาทต่อเดือน ส่งผลให้เหลือเงินในประเป๋าเพิ่มขึ้นสูงสุด 336 บาทต่อเดือน
หากจ่ายเงินสมทบเกินกว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ นายจ้างและผู้ประกันตน สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินส่วนที่เกินคืนได้ที่ สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) พื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด หรือสำนักงาน ประกันสังคม จังหวัดสาขา โดยตรวจสอบที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ได้ ที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
เพิ่มเงินหมุนเวียน 2.4 หมื่นล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ
เบื้องต้นรัฐบาลประเมินว่า มาตรการลดเงินสมทบ ประกันสังคม รอบที่ 2 ตั้งแต่งวดค่าจ้างเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2563 จะเป็นการลดภาระให้แก่ผู้ประกันตนจำนวน 12.79 ล้านคน คิดเป็นเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท และนายจ้าง 4.87 แสนราย คิดเป็นเงิน 1.1หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวม 2.4 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ หากคิดเป็นจำนวนเงินที่จะประหยัดได้ของผู้ประกันตนมาตรา 33 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,022 บาท และ ผู้ประกันตนมาตรา 39 เฉลี่ย 1,008 บาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนนี้ กองทุน ประกันสังคม จะจัดเก็บเงินสมทบได้น้อยลง
โดยกองทุนประกันสังคมคาดว่า จะจัดเก็บเงินสมทบได้ 26,463 ล้านบาท จากปกติที่ประมาณการจัดเก็บได้จำนวน 50,775 ล้านบาท หรือลดลง 24,313 ล้านบาท
ด้านประมาณการรายจ่ายประโยชน์ทดแทนในช่วง 3 เดือน คิดเป็นเงิน 46,667 ล้านบาท ทำให้เงินสมทบที่จัดเก็บต่ำกว่ารายจ่าย และต้องใช้เงินจากกองทุนฯ 17,204 ล้านบาท ส่งผลให้กองทุนเสียโอกาสในการลงทุน 1,077 ล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา! ‘คลัง’ ชงครม.ไฟเขียว ‘มาตรการคนละครึ่ง-เพิ่มเงินบัตรคนจน’
- ‘ประกันสังคม’ แจงลงทุน ‘ศรีพันวา’ ผลตอบแทนดี 6% โกยปันผลมาแล้ว 229 ล้าน
- จวก ‘ประกันสังคม’ เอาเงินลูกจ้างลงทุนโรงแรมหรู ‘ศรีพันวา’ ทั้งที่ขาดทุน 150 ล้าน