Economics

เปิดเงื่อนไข! แจกเงิน 3000 บาท รอคลังเคาะแผน ‘คนละครึ่ง’ เร็วๆ นี้

แจกเงิน 3000 บาท “สภาพัฒน์” ยัน “หาบเร่-แผงลอย” มีสิทธิ์รับเงินผ่านโครงการ “คนละครึ่ง” จับตา “คลัง” สรุปเงื่อนไข ก่อนส่ง ศบศ. – ครม.พิจารณา

จากกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “ศบศ.” เห็นชอบมาตรการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศวงเงิน 45,000 ล้านบาท ซึ่งตามนโยบายจะเป็นการ แจกเงิน 3000 บาท ให้ประชาชน 15 ล้านคน เพื่อซื้อของกับผู้ค้ารายย่อย โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องจ่ายเงินค่าสินค้าครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลจะช่วยจ่ายอีกครึ่งของการใช้เงิน เช่น ถ้าจะใช้เงินที่รัฐให้ 3,000 บาท ผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีเงิน 3,000 บาท ใส่เข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อเป็นช่องทางในการรับและจ่ายเงิน

แจกเงิน8963

ล่าสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าว ที่รัฐบาลจะดำเนินการมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐผ่าน “คนละครึ่ง” ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบในหลักการของกรอบแนวคิดโครงการในคราวประชุมเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมานั้น

สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ ชี้แจงว่า โครงการคนละครึ่งยังมีลักษณะเป็นกรอบกว้าง โดยกระทรวงการคลัง จะต้องไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น คุณสมบัติของประชาชน และร้านค้า ที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการ จำนวนประชาชนที่จะได้รับสิทธิ์ วงเงินค่าใช้จ่ายต่อวัน ระบบการลงทะเบียน

นอกจากนี้ ต้องพิจารณากลไกในการช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกผู้ค้า ที่เป็นหาบเร่ แผงลอย ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง การหารือเรื่อง รูปแบบการชำระเงินด้วย

ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการคลังจัดทำรายละเอียดโครงการที่มีความสมบูรณ์แล้ว จะนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้น ในช่วงระหว่างนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่กระทรวงการคลังยังจัดทำรายละเอียดโครงการให้มีความสมบูรณ์ ขอให้สื่อมวลชน และประชาชนรอความชัดเจนในรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในครั้งต่อไป

ดนุชา พิชยนันท์

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหราสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบศ.) ชุดที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ศบศ.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศวงเงิน 45,000 ล้านบาท

วัตถุประสงค์หลัก เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปครอบคลุมถึงผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอย โดยรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย 50% และอีก 50% ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเองในวงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน เพื่อเอาไปใช้จ่ายซื้อของ ซึ่งจะต้องมาลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการลักษณะเดียวกับ “ชิมช้อปใช้”

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ มีดังนี้

  • มีสัญชาติไทย
  • อายุ 18 ปีขึ้นไป

โดยจำกัดไว้ที่ 15 ล้านคน สมัครเข้าร่วมโครงการแบบใครมาก่อนได้ก่อน รัฐจะ แจกเงิน 3000 บาท ให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย

ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

  • ร้านค้าทั่วไป
  • หาบเร่
  • แผงลอย ที่เป็นรายย่อย

เงื่อนไขการใช้จ่าย

  • ใช้ได้ไม่เกินวันละ 100 – 250 บาท
  • รัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่าย 50% และอีก 50% ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเอง
  • ครอบคลุมอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่
  • มีระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ตุลาคม – ธันวาคม 2563

ขณะที่กลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ จะมุ่งเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อยทั่วไป ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการหาบเร่ แผงลอย ประมาณ 80,000 ร้านค้า ผ่านกลไกการดำเนินงานผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล โดยที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลังจัดทำรายละเอียดโครงการ เพื่อนำเสนอต่อ ศบศ. ภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ คาดจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ 90,000 ล้านบาท

“มาตรการ แจกเงิน 3000 บาท ทาง ศบศ.ให้กระทรวงการคลังไปดูรายละเอียดและนำกลับมาเสนอ ศบศ.เห็นชอบอีกครั้ง เพื่อเข้า ครม. คาดว่าจะเริ่มโครงการเดือนตุลาคม 2563” นายดนุชา กล่าว

แจกเงิน 3000 บาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงโครงการแจกเงิน 3000 บาทเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยระบุว่า มาตรการช่วยเหลือประชาชน จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด โดยการช่วยค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน 15 ล้านคน ในวงเงิน 3,000 บาทต่อคนว่า มาตรการดังกล่าว เป็นเพียงหลักการเบื้องต้น ที่ทางกระทรวงการคลัง ได้นำเสนอในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นข้อสรุป ที่จะอนุมัติให้ดำเนินการโครงการแต่อย่างใด

“โครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ศบศ. ครั้งต่อไปภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า” นายอนุชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากนี้กระทรวงการคลัง กำลังดำเนินการจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ทั้งในส่วนของประชาชน ที่จะลงทะเบียนได้รับสิทธิ์ และร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยขอให้ครอบคลุม ผู้ประกอบการรายย่อยให้ได้มากที่สุด และเมื่อกระทรวงการคลัง ได้ข้อสรุป จะนำเสนอเพื่อขอมติจาก ศบศ. และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่า รัฐบาลจะดำเนินการโครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้วยความรอบคอบ และให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประชาชนทั่วไป เงินช่วยเหลือดังกล่าวนี้ รัฐบาลตั้งใจ ที่จะให้ประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าทั่วไป ร้านหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วยต่างๆ รวมถึง การซื้อสินค้าในตลาดสดและตลาดนัด เพื่อให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ให้ได้มากที่สุด และเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo