Economics

‘กรณ์’ เดินสายคัดค้านกลุ่ม PTT ซื้อกิจการ GLOW-จี้ขายทิ้งอเมซอน

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อคัดค้านการที่กลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) จะเข้าซื้อกิจการ บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) โดยเห็นว่า กกพ.จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะอาจจะมีผลต่อการดำเนินการที่ขัดกับรัฐธรรมนูญตามมาตรา 75 ที่ห้ามภาครัฐทำธุรกิจแข่งกันเอกชน ยกเว้นว่าสามารถดำเนินการได้กรณีจำเป็น

korn
กรณ์ จาติกวณิช

นอกจากนี้ นายกรณ์ยังได้เดินทางไปยื่นข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย โดยระบุว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะยื่นข้อท้วงติงกรณีขัดรัฐธรรมนูญให้กับศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องพิจารณาต่อไป

“การที่จะซื้อหุ้น GLOW เพื่อที่จะทำธุรกิจไฟฟ้า ถือเป็นการแข่งขันกับเอกชนอย่างปฎิเสธไม่ได้ เราจึงมองว่าเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ และจะยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อในวันนี้”

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญที่ได้หารือกับนายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกกพ. คือเงื่อนไขสำคัญการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากกกกพ. ซึ่งหาก กกพ.อนุมัติก็จะทำให้บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของปตท.ที่จะเป็นคนเข้าซื้อ GLOW จ่ายเงินค่าซื้อหุ้นให้กับกลุ่ม Engie ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น GLOW มูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้เงินจำนวนนี้ถูกดึงออกนอกประเทศ

หากภายหลังมีการโอนเงินไปแล้ว แต่มีการตีความว่าเป็นการกระทำที่ขัดกฎหมายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น กกพ.ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ซึ่งมีกำหนดการพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันที่ 27 กันยายน และสามารถขยายเวลาได้อีก 15 วัน

นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อการซื้อกิจการ GLOW จะทำให้เกิดการผูกขาดการขายไฟฟ้าในพื้นที่มาบตาพุด นอกเหนือจากการผูกขาดในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของปตท. ทำให้กลุ่มลูกค้าของ GLOW นับ 10 รายมีความกังวลเรื่องการซื้อไฟฟ้าและไอน้ำที่อาจจะไม่เป็นธรรม และได้ยื่นข้อร้องเรียนดังกล่าวมาที่กกพ.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การที่ปตท.มีแผนจะขยายธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนภายใต้ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ปตท.นั้น นับว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญที่ห้ามแข่งขันกับภาคเอกชนด้วยเช่นกัน

แนวทางที่เป็นไปได้เห็นว่าปตท.ควรขายธุรกิจอเมซอนออกมาให้กับเอกชน โดยไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาครัฐ ซึ่งอาจจะเป็นการขายให้กับอดีตผู้บริหารปตท. หรือขายให้กับกลุ่มแฟรนไชส์ หรือประชาชนทั่วไป

“PTTOR จะกระจายหุ้นหรือไม่ เป็นสิทธิของเขา สำหรับผมมองว่าวิธีการแก้ปัญหาคือกลางแปลงอเมซอนเป็นเอกชนล้วนๆ อย่างน้อยให้การแข่งขันเกิดขึ้นระหว่างเอกชนกันเอง ไม่ใช่รัฐแข่งกับเอกชน แล้วทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ”นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอดูการปรับกลยุทธ์ธุรกิจอเมซอนของปตท.หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกันก่อนหน้านี้ ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ที่ได้มายื่นข้องเรียกร้องกรณีกิจการไฟฟ้าก่อนนั้นเนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight