ไทยตั้งเป้าที่จะดึงรายการกีฬาระดับโลกเข้ามาจัดงานในประเทศมากขึ้น ผ่านการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชน (พีพีพี) ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับกีฬา เพื่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
ในการให้สัมภาษณ์กับนิกเคอิ เอเชียน รีวิว ที่กรุงโตเกียวเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารัฐ กล่าวว่า ไทยมีรายได้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ที่รวมถึงการท่องเที่ยว และเครื่องนุ่งห่มอยู่ที่ 6.37 พันล้านดอลลาร์ต่อปี โดยรัฐบาลหวังว่าจะเพิ่มตัวเลขนี้ให้ได้มากกว่า 10% ต่อปี และได้มีการบรรจุอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยไว้เป็นส่วนหนึ่งของ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2564)”
“รัฐบาลจะนำรูปแบบ พีพีพี เข้ามาใช้ ซึ่งอาจจะเป็นในปลายปีนี้ สำหรับการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา อาทิ สนามกีฬา และสระว่ายน้ำ เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมนี้”
นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยจะทำให้บริษัทต่างๆ ยื่นเรื่องขอยกเว้น และลดหย่อนภาษีได้ง่ายขึ้น สำหรับการลงทุนด้านกีฬา โดยรัฐบาลต้องการให้อุตสาหกรรมกีฬามีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศให้มากกว่านี้ จากปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วนราว 1% เท่านั้น
“ไทยกำลังหาทางดึงดูดให้มีการเข้ามาจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกในประเทศมากขึ้น”
ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ของไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการแข่งรถจักรยานยนต์ โมโตจีพี หลังสามารถคว้าสัญญาจัดการแข่งขันรายการนี้นาน 3 ปี จนถึงปี 2563 โดยมีกลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ของปตท.เป็นผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขัน
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงยังได้จัดงานแถลงข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันโมโตจีพี ในกรุงโตเกียวโดยหวังว่าจะได้รับความสนใจจากแฟนๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนายพงษ์ภาณุแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้ที่เดินทางเข้าชมการแข่งขัน จะส่งผลทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะพำนักเป็นเวลานาน และใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 50%
นอกเหนือจากโมโตจีพีแล้ว ไทยยังมีแผนที่จะส่งเสริมการแข่งขันกอล์ฟมาราธอน การขี่จักรยาน และมวยไทย รวมถึงกีฬาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
ที่มา: Nikkei Asian Review
