Economics

ภารกิจ ‘ชาญศิลป์’ 1 ปี 8 เดือนซีอีโอปตท.จัดทัพลุยเมกะโปรเจค

เวลาเพียง 2 ปีของการนั่งในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ของ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซีอีโอคนที่ 9 จะทำอะไรได้มากมายหรือไม่ยังเป็นคำถาม แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขากำลังเล็ง ก็คือการลงไปคลุกกับงานทรัพยากรบุคคล

Mr.Chansin Treenuchagron 3 e1550828258241 1
ชาญศิลป์ ตรีนุชกร

“เราต้องเตรียมคนให้พร้อม เพราะคนเป็นปัจจัยในการ drive ทรัพย์สินของเราที่มีอยู่” เขา ย้ำว่านี่คือ  QUICK  WIN ที่ต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมอธิบายสถานการณ์ว่า คนปตท.อยู่คนละบริษัท แต่ไม่รู้จักกัน คนเก่ากับคนใหม่ไม่เชื่อมโยงกัน แล้วจะ synergy กันได้อย่างไร

ดังนั้นหลังจากปรับตำแหน่งต่างๆ ล็อตใหญ่จนลงตัวแทนคนเกษียณอายุรวม 51 ตำแหน่งในปีนี้แล้ว ก็จะหันมาทำให้คนในกลุ่มปตท.ทำงานเป็นทีมเวิร์กมากขึ้น เพราะโครงการต่างๆที่จะต้องลงทุนอยู่ในแผนที่จะเดินหน้าไปอยู่แล้ว แต่หากไม่มีคนที่พร้อมมารองรับก็ไปไม่ได้

เรื่อง ‘คน’  จึงถือเป็นหนึ่งใน 6 ด้านภายใต้นโยบาย “ CHANGE for Future of Thailand 4.0” ที่เขาจะจับทิศนี้ไปตลอดในช่วงที่เขาเป็น ซีอีโอ ประกอบด้วย

Continuity เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับการดำเนินธุรกิจแบบ 3 D คือ Do now, Decide now และ Design now

Honesty ความซื่อสัตย์ ความเที่ยงธรรม เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ และดำเนินการอย่างมีจริยธรรม คำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย

Alignment ขยายความร่วมมือ เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืน ใช้ความเข้มแข็งจากภายใน ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. สร้างพลังร่วมเพื่อบูรณาการความเชี่ยวชาญ กระจายโอกาสการเติบโตออกสู่สังคมภายนอก

New Innovation Solution สร้างสรรค์สิ่งดีและสิ่งใหม่ หาธุรกิจที่เป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จใหม่ (New S-Curve) ของ ปตท. โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และแนว ความคิดใหม่ มาสรรค์สร้างให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ

Good Governance กำกับดูแลดี มีประสิทธิภาพ ยึดมั่นการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เน้นความโปร่งใส เที่ยงตรง เป็นธรรม และตรวจสอบได้ โดยปรับปรุงบทบาทการกำกับดูแลบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมให้มีประสิทธิผลมากขึ้น และคำนึงถึงผลประโยชน์ภาพรวมของกลุ่ม ปตท. ตลอดทั้งสายโซ่ธุรกิจ เพื่อรักษาความมั่นคง และมั่งคั่งทั้งในเรื่องของธุรกิจพลังงาน และปิโตรเคมี

และแน่นอน Excellence Team Work  มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงพัฒนาพนักงานทุกรุ่นให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีม มีศักยภาพ ความกล้า และพร้อมรับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังต้องเป็นคนกล้าที่จะก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ

เรื่องนี้เชื่อมโยงมาถึงการตอบคำถามของเขาในฐานะเป็นเศรษฐศาสตร์จากรั้วแม่โดมคนแรกที่รั้งตำแหน่ง CEO นายชาญศิลป์ บอกว่า ผมจบปริญญาโท ภรรยา ลูกผม จบจุฬา พนักงานมีหลากหลายสถาบัน และวิชาชีพ เพราะปตท.ต้องอาศัยคนที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันไป บ้างต้องอักษรศาสตร์ บ้างต้องวิศวกรรมศาสตร์ และบ้างต้องสังคมศาสตร์ หรือการวิจัยและพัฒนา

ผมทำงานที่ปตท.มาร่วม 36 ปี พ่อผมหอบเสื่อผืนหมอนใบ ไม่เคยคิดจะมานั่งถึงตรงนี้ได้ แต่ปตท.เปิดโอกาสเสมอสำหรับคนดี มีความสามารถและผลงาน

“กลุ่มปตท.ไม่ได้แบ่งแยกสถาบัน เราร่วมมือกันทุกสาขาอาชีพ  ก็เลยไม่หนักใจเกี่ยวกับสถาบัน และเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน ผมทำงานที่ปตท.มาร่วม 36 ปี พ่อผมหอบเสื่อผืนหมอนใบ ไม่เคยคิดจะมานั่งถึงตรงนี้ได้ แต่ปตท.เปิดโอกาสเสมอสำหรับคนดี มีความสามารถและผลงาน”

161044

ส่วนการลงทุนโครงการสำคัญ ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่าการเข้าประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าโครงการประมาณ 200,000 ล้านบาทนั้น นายชาญศิลป์ แจงว่าจะได้ข้อสรุปและเข้าคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 28 กันยายน 2561 หรือหากไม่ทันก็จะเข้าในเดือนถัดไป เขา ระบุว่าขึ้นอยู่กับบอร์ดว่าจะตัดสินใจอย่างไร

ตอนนี้เหลือพันธมิตรไทยที่กำลังพิจารณา 2 รายเพื่อร่วมลงทุน ซึ่งเชื่อว่าจะทันการยื่นประมูลต่อการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) โดยยืนยันว่า โครงการนี้จะดำเนินการโดยบริษัทลูก คือ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo)

“โครงการนี้ปตท.ให้ความสำคัญ  สามารถเชื่อมโยงการลงทุนของกลุ่มปตท.ที่อยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวนมาก”

ส่วนโครงการลงทุนในต่างประเทศ หลายคนยังคงเฝ้าติดตามการลงทุนธุรกิจถ่านหินในอินโดนิเซีย เขาบอกว่าต้องศึกษาอย่างระมัดระวัง เพราะมีประเด็นเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกเว้นจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าที่ปากหลุมเพื่อลดการขนส่งถ่านหินออกนอกแหล่ง คาดว่าปีหน้าจะได้ข้อสรุป

ด้านธุรกิจ New S-Curve นายชาญศิลป์ ระบุว่ามุ่งไปที่การต่อยอดไบโอเคมิคัล เพื่อมาผลิตยาไบโอฟาร์มา ให้คนไทยเข้าถึงยาได้มากขึ้น โดยเฉพาะยาที่กำลังหมดอายุการคุ้มครองสิทธิบัตร ซึ่งองค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่ปตท.เข้าไปรวมลงทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ คาดว่าเดือนธันวาคมนี้จะได้ข้อสรุป

การลงทุนโครงการต่างๆของปตท.ไม่ได้ก้าวไปได้ง่าย นอกจากต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ตัดสินใจผิดพลาดแล้ว Hate Speech   เป็นสิ่งที่มาพร้อมกับการขยายกิจการของปตท.มาตลอด ที่ซีอีโอทุกคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะในยุคหลังที่ผู้มีส่วนได้เสียขยายวงกว้างมากขึ้น

เขาอธิบายเหมือนกับซีอีโอคนก่อนๆ ทั้งในเรื่องการผูกขาด ราคาน้ำมันแพง และกำไรปตท. เขา ระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ให้สิทธเสรีภาพกับทุกคนในการแสดงออก แต่ไม่มีเสรีภาพในการกระทำรุนแรง หรือไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

ขณะเดียวกันต้องแยกแยะว่า อะไรที่เป็นสาธารณะ อะไรคือการผูกขาด และอะไรคือบทบาทปตท.ที่ต้องดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พร้อมโยนคำถามกลับไปว่าเมื่อ 40 ปีก่อน ให้ใครมาลงทุนท่อในทะเลยาว 400 กิโลเมตร โรงแยกก๊าซธรรมชาติคงไม่มีใครกล้าทำ นอกจากรัฐบาลมอบหมายให้ปตท.ทำ และขยายมาถึงทุกวันนี้

แน่นอนว่าเรื่องราคาน้ำมัน เป็นอีกเรื่องที่นายชาญศิลป์ อธิบายว่า ไทยในฐานะผู้ใช้เพียง 1% ของโลกคงไม่มีบทบาทเป็นผู้กำหนดราคาแน่นอน และหากกำหนดให้ราคาพลังงานถูกมาก เราคงไม่มีเงินซื้อน้ำมัน หรือแม้แต่อาหารเหมือนในบางประเทศที่กำลังประสบอยู่

ส่วนข้อกล่าวหาสดๆ ร้อนๆ ก็คือร้านกาแฟอเมซอนที่ขยายสาขาไปทุกหัวระแหง และการที่บริษัทลูก  โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งทำกิจการไฟฟ้า เข้าซื้อหุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) 69.11% นายชาญศิลป์ ระบุว่า เรื่องกาแฟอเมซอนนั้น ตลาดของเราไม่ได้มุ่งไปแข่งกับรายเล็กรายน้อย แต่แข่งกับตลาดบน

ขณะเดียวกัน ก็เป็นลักษณะแฟรนไชส์มีทั้งอยู่นอกสถานีบริการน้ำมัน และอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงยังมีการลงทุนออกไปนอกประเทศอีกด้วย

ส่วนเรื่องกิจการไฟฟ้านั้นยืนยันว่ากิจการนี้มีผู้ผลิตอยู่กว่า 40 รายในตลาด กำลังผลิตในมือที่ GPSC มีส่วนแบงไม่ถึง 10% เท่านั้น ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ มีกำลังผลิตมากกว่า

Avatar photo