ปตท.เพิ่มตำแหน่งรองด้าน GRC ดูแลด้านสังคม-สิ่งแวดล้อม-ธรรมาภิบาล ป้องกันทำผิดกฎหมาย
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าสำหรับการปรับตำแหน่งภายในของปตท.รวม 11 ตำแหน่งสำคัญทั้งระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทปตท.เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมานั้น
ตำแหน่งที่ตั้งใหม่ และมีผลครั้งนี้เลย คือ ตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ (GRC) ที่โยกนาย กฤษณ์ อิ่มแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กรและความยั่งยืน บริษัทปตท. มาดำรงนั้น เพื่อทำงานด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลักดันธรรมาภิบาล ซึ่งที่ผ่านมาเคยอยู่กระจัดกระจายในหลายๆหน่วยงานของปตท.ครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินกิจการของปตท.ไม่มีปัญหาสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียง และทำผิดกฎหมาย
“กลุ่มปตท.มุ่งเน้นแนวทางการบริหารจัดการความยั่งยืน ตามหลัก 3P โดยให้ความสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ People การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม Planet การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ Profit การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ในกรณีนายชวลิต ทิพพาวนิช ที่มาดำรงตำแหน่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เนื่องจากมีประสบการณ์การบริหารกิจการไฟฟ้าในบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้การปรับตำแหน่งดังกล่าว เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุ และพิจารณาตามความเหมาะสม โดยอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาบุคลากรที่มีประสบการณ์หลากหลาย และพิจารณาตามหลักของสถาบันพัฒนาผู้นำปตท.ตั้งแต่ระดับต้น กลาง และปลาย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของตำแหน่งเป็นหลัก ซึ่งบางคนอาจอายุน้อยแต่มีความเหมาะสมในบางจุด
ส่วนกรณีที่มีการโจมตีการขยายร้านคาเฟ่ อเมซอนนั้น นายชาญศิลป์ ระบุว่า อเมซอนไม่ใช่ของปตท.ทั้งหมด เพราะเราเปิดทางให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของผ่านธุรกิจแฟรนไชส์ ปัจจุบัน 2,100 สาขาที่มีอยู่เป็นร้านที่ ปตท.บริหารเอง 10% อีก 90% เป็นร้านแฟรนไชส์
