Economics

‘ไทย-ลาว’จับมือดันการค้าทะลุ 11,000 ล้านดอลลาร์ในปี 64

สนธิรัตน์2

“ไทย-ลาว” จับมือดันการค้าทะลุ 11,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 เชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ กระชับความสัมพันธ์การค้าการลงทุน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้แทนไทยจากภาครัฐและ ภาคเอกชนเข้าร่วมการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวง อุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ 7 และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจไทย-สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2561 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ประสบความสาเร็จด้วยดี จับมือกระชับความเป็น หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ มุ่งเดินหน้าขยายการค้าให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2564 จาก 6,170 ล้านดอลลาร์ในปี 2560

ทั้งนี้ ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้าดังกล่าว สองฝ่ายให้ความสำคัญต่อการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งของไทย-สปป.ลาว และภายในภูมิภาค ล่าสุดทั้ง สองฝ่ายพร้อมให้ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ระหว่างมุกดาหาร-สะหวันนะเขต เป็นพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area หรือ CCA) ที่จะอำนวยความสะดวกการนำเข้าส่งออกระหว่างไทย-สปป.ลาวอย่างมาก สามารถตรวจเอกสารพิธีการนำเข้า-ส่งออกที่เกี่ยวกับ 2 ประเทศในจุดเดียว

S 28327955

ทั้งนี้ ไทยยังแจ้งลาวว่า พร้อมสนับสนุน สปป.ลาว ในการเชื่อมโยงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน (ASEAN Single Window หรือ ASW) ให้ แล้วเสร็จในช่วงการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการตรวจสอบเอกสารรับรองถิ่น กำเนิดสินค้า (Form D) ที่ปัจจุบันต้องส่งไปตรวจที่เวียงจันทน์

นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมช่วยเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร ในเรื่องต่างๆ ของ สปป.ลาว โดยเฉพาะ SME ผ่านโครงการ CLMVT และโครงการ YEN-D เป็นต้น พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของกันและกัน โดยพิจารณาความเป็นไปได้ของ การมีเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกันในบริเวณชายแดนที่อยู่ติดกัน การใช้ประโยชน์จากระบบขนส่งทางรางที่มีอยู่ให้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายเส้นทางรถไฟระหว่างไทย-สปป.ลาว และการดำเนินการตามความตกลงด้านการขนส่ง ข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและเชื่อมโยงการขนส่งภายในภูมิภาค ในการนี้

ไทยได้ขอให้ สปป.ลาว ปรับการเก็บค่าธรรมเนียมขนส่งสินค้าผ่านแดนให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกด่าน เพื่อให้ ผู้ประกอบการสามารถวางแผนต้นทุนค่าขนส่งได้ ทั้งสองฝ่ายยังจับมือกันสร้างกลไกความร่วมมือในการระงับข้อพิพาททาง การค้าของภาคธุรกิจ การส่งเสริมความร่วมมือทรัพย์สินทางปัญญาและดูแลไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า เพื่อส่งเสริมการค้าและลงทุนระหว่างกันให้แน่นแฟ้นและขยายตัวมากขึ้น

S 28327954

นายสนธิรัตน์ เพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้จัดกิจกรรมจับคู่ ธุรกิจคู่ขนานไปกับ การประชุม JTC เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ โดยมีผู้ประกอบการ S M E s จากทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวกว่า 80 คนผลการจัดกิจกรรมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง SMEs ของทั้งสองประเทศ นักธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่าย สนใจที่จะซื้อ ขาย และเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกัน สินค้าไทยที่ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ สปป.ลาว ได้แก่ สินค้า วัสดุก่อสร้าง รวมทั้ง ธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งนี้
นายสนธิรัตน์ เสริมว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมภาคเศรษฐกิจเพื่อ เตรียมนำผลรายงานต่อการประชุมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการไทย-สปป.ลาว ครั้งที่ 3 ในช่วงปลายปี 2561 ปัจจุบัน สปป.ลาว เป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของไทยในโลก

การค้าของไทยกับ สปป.ลาว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 5,662.42 ล้านดอลลาร์ มีอัตราการ ขยายตัวเฉลี่ย 4.78% ต่อปี ในปี 2560 การค้ารวมไทย-สปป.ลาว มีมูลค่า 6,170.01 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออก ที่สำคัญไป สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันสาเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้าปศุสัตว์ อื่นๆ เคมีภัณฑ์ เครื่องสำอางค์ สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาสิว เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ พลาสติก ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสาเร็จรูปอื่นๆ

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK