Economics

ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด! ‘วายแอลจี’ มองเป้าหมายถัดไปที่ 2,100 ดอลลาร์

ราคาทอง พุ่งไม่หยุด! ราคาตลาดโลกทะลุ 2,000 ดอลลาร์ “วายแอลจี” มองทิศทางยังเป็นขาขึ้น ให้เป้าหมายถัดไปที่ 2,100 ดอลลาร์ หรือ 31,000 บาท แนะนำลงทุนไม่เกิน 15% ของพอร์ต

วายแอลจี เผย ราคาทอง ในประเทศทำสถิติราคาปรับขึ้นมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ทะลุ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองเทรนด์ยังเป็นขาขึ้น แม้ราคาปรับขึ้นมาแรง แต่ปัจจัยหนุนยังแน่น ทั้งผลกระทบจาก COVID-19 ความขัดแย้งสหรัฐ – จีน ล่าสุด เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และ การอ่อนค่าของสกุลเงิน ส่งผลนักลงทุน ธนาคารกลางหลายประเทศ และ กองทุนขนาดใหญ่เข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง

แนะนักลงทุน ถือทองคำในพอร์ต 5-15% ส่วนมือใหม่ ควรเริ่มจาก 5% ทยอยสะสมในพอร์ต แต่ไม่ควรเกิน 15% สำหรับเป้าหมาย ราคาทองคำในช่วงถัดไป วายแอลจี มองที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ คิดเป็นเงินบาทเกือบ 31,000 บาท

ราคาทอง

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลก ได้ปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 2,031 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งราคาที่ปรับขึ้นมาในระดับนี้ ถือว่า เป็นการปรับขึ้นมาสูงมาก แต่ทิศทางราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น

เนื่องจาก ปัจจัยสนันสนุนยังมีอยู่หลายปัจจัย โดยเฉพาะ COVID-19 ที่ส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งล่าสุดพบว่า ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐ ในไตรมาส 2 หดตัวถึง -32% นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ – จีน ก็ยังคงมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับ เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากสภาพคล่องที่เกิด จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุน ธนาคารกลางหลายประเทศ สะสมทองคำมากขึ้น รวมถึงกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ยังคงเข้าซื้อทองคำ เป็นปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาทอง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์

อย่างไรก็ตาม YLG แนะนำ นักลงทุนควรกระจายการลงทุน ในสินทรัพย์ต่างๆ ให้หลากหลาย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง โดยมองว่า ควรมีสัดส่วนการลงทุนทองคำ ในพอร์ตลงทุนที่ 5-15% โดยคนที่เริ่มลงทุน ควรมีสัดส่วนลงทุนอยู่ที่ 5% และค่อยปรับขึ้น เป็น 10% และ 15% โดยสัดส่วนไม่ควรเกินระดับนี้ เนื่องจากปัจจุบันราคาก็ถือว่า ปรับขึ้นมาสูงแล้ว แม้ว่าโอกาสราคายังสามารถปรับขึ้นได้อีก แต่การลงทุนควรมีวินัย และ กระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และถือทองคำไว้ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ส่วนเป้าหมายราคาทองคำในปีนี้ จะปรับขึ้นไปเท่าใดนั้น ปัจจุบันถือว่า คาดการณ์ได้ยากเพราะราคาปรับขึ้นมามากแล้ว ในขณะเดียวกันผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากวิกฤตก็อยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น แต่หากมีวัคซีนผลิตออกมาใช้ได้จริง ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับลดลงได้

อย่างไรก็ตาม มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ดังนั้น ทองคำ จึงยังคงอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ซึ่งล่าสุด “โกลแมน แซคส์” คาดการณ์ว่า ภายใน 12 เดือน ราคาทองคำจะปรับไปที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม YLG มองเป้าหมายถัดไปที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นเงินบาทไทยประมาณ 31,000 บาท

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น แนะนำให้แบ่งพอร์ตเข้าซื้อหากราคาปรับลดลงมาที่ระดับ 2,000 – 1,988 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านระยะสั้นจะอยู่ที่ 2,031 – 2,043 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมตัดขาดทุนหากราคาทองคำหลุด 1,988 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรลงทุนในปริมาณที่เหมาะสม กับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ พร้อมกับตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้งเพื่อจำกัดความเสี่ยง

ฐิภา นววัฒนทรัพย์
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำ ทั้งในตลาดโลก และในประเทศ ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาผลตอบแทนทองคำ ในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว พบว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากถึง 11% และปรับตัวขึ้นต่อในเดือนสิงหาคม

โดยล่าสุด ปีนี้ ราคาทองคำ ในตลาดโลก ทำสติถิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 1,987.77 ดออลาร์ต่อออนซ์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหากนับจากต้นปี พบว่า ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 30% ซึ่งการปรับตัวขึ้นมาในปีนี้ ถือว่า เป็นการปรับขึ้นมากที่สุด เมื่อเทียบกับการเกิดวิกฤติครั้งก่อนๆ

ทั้งนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 นั้นกระทบไปทั่วโลก นักลงทุนและธนาคารกลาง รวมถึงกองทุนทองคำต่างเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้นการที่ ราคาทองคำ ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

ส่วนทิศทางราคาทองคำจากนี้ จะปรับขึ้นไปอีกหรือไม่นั้น มองว่า ยังมีโอกาสปรับขึ้นไปได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยสนับสนุนหลายปัจจัยทั้งเรื่อง COVID-19 และความขัดแจ้งของจีน-สหรัฐ โดยล่าสุด “โกลแมน แซคส์” ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์ราคาทองคำเป็น 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศวันนี้ ณ เวลา 13.43 น. ราคาปรับขึ้นลงแล้วรวม 6 ครั้ง โดยล่าสุดปรับขึ้นอีก 50 บาท โดย ทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 29,500 บาท ขายที่บาทละ 29,600 บาท และทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 28,970.76 บาท ขายออกบาทละ 30,100 บาท

ทั้งนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด รวมทั้งความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ – จีน รวมถึงเหตุการณ์ระเบิดกลางกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK