ตลาดเครื่องจักรอุตสาหกรรมแข่งดุ ผู้จัดจำหน่ายยอมหั่นราคาสินค้าลง 5% เพื่อดึงฐานลูกค้า ด้าน “อิตัลไทย” เล็งโอกาสขยายตัวจากนโยบายอีอีซี
นายอดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด หรือ ITI ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดเครื่องจักรอุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูงมาก เพราะตลาดหดตัวลง แต่จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้จัดจำหน่ายยอมลดราคาเครื่องจักรลงเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม เบื้องต้นประเมินว่า ราคาเครื่องจักรอุตสาหกรรมในภาพรวมลดลง 3-5% เมื่อเทียบกับช่วงก่อน โดยเฉพาะสินค้าประเภทรถขุดขนาด 20 ตัน ซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐาน มีความต้องการสูง และมีการแข่งขันสูงมากเช่นกัน
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่ออิตัลไทยอุตสาหกรรมเช่นกัน โดยคาดว่าในปี 2561 บริษัทจะมีกำไรราว 100 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ประเมินว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 40% หรือ 1,300 ล้านบาท เป็น 3,800 ล้านบาทในปีนี้ เพราะการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้กำไรขึ้นต้น (Margin) ของสินค้าลดลง
ในปี 2561 บริษัทจะพึ่งพารายได้จากเครื่องจักรกลุ่มงานถนนและกลุ่มงานเหมืองเป็นหลัก แบ่งสัดส่วนอย่างละ 50% ซึ่งรายได้จากทั้ง 2 ส่วน จะช่วยทดแทนเครื่องจักรกลุ่มงานเกษตรและกลุ่มอื่นๆ ที่มีความต้องการลดลง เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐยังไม่ค่อยมีความคืบหน้า ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่งผลให้ผู้รับเหมาชะลอคำสั่งซื้อเครื่องจักรหนักตามไปด้วย
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2561 บริษัทวางกลยุทธ์จะเพิ่มยอดขายในกลุ่มงานถนนมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ เปิดกว้าง และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทมีผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลหนักที่หลากหลาย ตอบโจทย์งานก่อสร้างได้ทุกประเภท
สำหรับการขยายตลาดงานถนน จะใช้ “รถปูคอนกรีต พาวเวอร์ เคิร์บเบอร์ แอนด์ พาวเวอร์ เพฟเวอร์” (Power Curbers & Power Pavers) ผลิตภัณฑ์ระดับโลกจากสหรัฐฯ ที่สามารถรองรับงานก่อสร้างถนนคอนกรีตได้หลากหลายและผ่านการทดสอบค่าดัชนีความขรุขระสากล (IRI) ของกรมทางหลวง (ทล.) มีจุดเด่นด้านฟังก์ชั่นที่ช่วยลดต้นทุน ลดแรงงาน ลดเวลา ให้ผู้รับเหมาได้กว่า 50% และลดจำนวนแรงงานในการปูพื้นคอนกรีตแต่ละครั้ง จาก 40 คนให้เหลือประมาณ 4 คน ซึ่งสอดรับกับสถานการณ์ตลาดที่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน คาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายประมาณ 10 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นายอดิศร์ กล่าวอีกว่า ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ อิตัลไทยอุตสาหกรรมตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตอย่างต่ำปีละ 10% โดยบริษัทจะเน้นเป็นผู้ให้บริการเครื่องจักรอุตสาหกรรมครบวงจรและจัดจำหน่ายเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงเพื่อเพิ่มมาร์จิ้น
นอกจากนี้กำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจจากนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาลวงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งหากโครงการต่างๆ ในอีอีซีทำให้ความต้องเครื่องจักรสูงขึ้น เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือแหลมฉบัง ฯลฯ บริษัทก็พร้อมขยายศูนย์ในบริการภาคตะวันออกเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ ที่ จ.ระยอง
ทั้งนี้ บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด (ITI) คือ หนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ดำเนินธุรกิจ จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 10 แบรนด์ โดยปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 10% และนับเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมอันดับ 4 ของประเทศไทย
