Economics

สนพ.เกาะติดสงครามการค้าหวั่นกระทบดันราคาน้ำมันพุ่ง

149203

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.กำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทิศทางราคาในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงมาอยู่ในระดับ 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากปัจจุบันเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศแตะ 30 บาทต่อลิตร

ทั้งนี้ ปัจจัยใหญ่หลักที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นในปลายปี มาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีนที่ตอบโต้ไปมาโดยใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า อีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นยังมาจากการที่สหรัฐอเมริกาเตรียมใช้มาตรการแซงชั่นอิหร่านอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันอิหร่านยังคงเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปค โดยต้องติดตามต่อไปเพื่อดูว่าทั้งสองปัจจัยมีผลต่อราคามากน้อยต่างกันอย่างไร โดยจะรายงานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)เป็นระยะๆ

นายทวารัฐ ย้ำว่าการปล่อยให้ราคาน้ำมันสะท้อนความเป็นจริงจะเป็นออกที่ดีกว่าการตรึงราคาอย่างที่มีบทเรียนกันมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐก็พยายามหามาตรการช่วยเหลือในส่วนของการส่งเสริมการใช้ ดีเซลหมุนเร็วเกรดพิเศษ บี 20 ในรถบรรทุก โดยสนับสนุนส่วนต่างให้ ทำให้ราคาต่ำกว่าดีเซลหมุนเร็วปกติสัดส่วน 3 บาทต่อลิตร โดยผู้ค้ามาตรา 7 จะป้อนน้ำมัน บี 20 ตรงให้กับเจ้าของฟีดรถที่ต้องการไม่มีจำหน่ายในสถานีบริการ เพราะคุณภาพน้ำมันเหมาะกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดี มียอดการใช้ 1 ล้านลิตรต่อเดือน จากเป้าหมาย 15 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจะใช้การบอกต่อแบบปากต่อปากให้คนใช้มากขึ้น

สำหรับราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุด รายงาน ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2561 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส 65.91 ดอลล่าร์ร่อบาร์เรล เบรนท์ 71.83 ดอลล่าร์ ดูไบ 70.22 ดอลล่าร์

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่างประเทศ เบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 83.38 ดอลล่าร์ ดีเซลหมุนเร็ว 85.85 ดอลล่าร์ น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 85.85 ดอลล่าร์ น้ำมันเตา 68.93 ดอลล่าร์

สำหรับการใช้น้ำมันของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกประเภททั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล เนื่องจากเมืองขยายตัว ทำให้คนใช้รถยนต์เดินทางมากขึ้น ส่วนน้ำมันอากาศยานขยายตัวเช่นเดียวกัน เพราะการท่องเที่ยวขยายตัว

Avatar photo