Economics

‘ขสมก.’ ชงแผนจัดหารถเมล์3พันคันวงเงิน1.2หมื่นล้าน

รถเมล์

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ด ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก. เสนอโครงการจัดหารถเมล์ 3,000 คัน วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูองค์กร ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว

ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้เร็วที่สุดในเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ โดยเป็นการขอทบทวนมติ ครม. ที่เคยอนุมัติให้จัดซื้อรถเมล์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.20 ล้านบาท ปี 2556

สำหรับแผนการจัดหารถเมล์ใหม่จำนวน 3,000 คัน จะดำเนินการระหว่างปี 2562-2565 ประกอบด้วย

1) การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489 คัน (ขณะนี้ได้ตัวผู้ชนะการประมูลแล้ว แต่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง)

2) การปรับปรุงรถเมล์ปรับอากาศฮีโน่ เครื่องยนต์เอ็นจีวี 323 คัน

3) การเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน

4) การเช่ารถเมล์ดีเซลไฮบริด 400 คัน

5) การจัดซื้อรถเมล์ดีเซลไฮบริด 1,453 คัน

6) การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (EV) 35 คัน

นายณัฐชาติ กล่าวต่อว่า ถ้า ครม. เห็นชอบโครงการจัดหารถเมล์ 3,000 คัน ขสมก. ก็จะดำเนินการเปิดประมูลต่อไป เริ่มจากปลายปี 2561 จะเปิดประมูลโครงการปรับปรุงรถเมล์ฮีโน่จำนวน 323 คัน คันละ 4.2 แสนบาท หรือรวมแล้วประมาณ 135 ล้านบาท

ปี 2562 จะเปิดประมูลโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 300 คันและรถเมล์ดีเซลไฮบริด 400 คัน รวมถึงจะทยอยจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียด้านเทคโนโลยีและวิธีการจัดหา

“ใน 4-5 ปีข้างหน้า การขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีรถไฟฟ้าและระบบรางมากขึ้น ขสมก. จึงเลือกจัดหารถเมล์ด้วยวิธีการเช่าก่อน เพราะการเช่ามีความยืดหยุ่น ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียเรื่องวิธีการเช่าและซื้อ แล้วนำไปปรับแผนช่วงต่อไปให้เหมาะสมได้” นายณัฐชาติกล่าว

นอกจากนี้ ขสมก. เตรียมเสนอแพจเกจโครงการสมัครใจจาก (Eariler retire) ให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาในเดือนตุลาคม และจะเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป โดยแพจเกจเออรี่รีไทร์จะเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและถูกกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือน

สำหรับปี 2562 ขสมก. ตั้งเป้าจะลดพนักงานลง 300-400 คน และปี 2563 ตั้งเป้าจะลดลง 2,000 คน สอดคล้องกับทิศทางการใช้ระบบอี-ทิคเก็ต ทดแทนพนักงานเก็บค่าโดยสาร แต่ขอย้ำว่าโครงการเออรี่รีไทร์จะเน้นความสมัครใจของพนักงานเป็นหลัก จึงตอบไม่ได้ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ลำดับถัดไป ขสมก. จะเสนอโครงการลดภาระหนี้สินให้รัฐบาลพิจารณา โดยตอนนี้ ขสมก. มีภาระหนี้สินสะสมอยู่ 107,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินงาน 20% หรือประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท และหนี้สินที่เกิดจากนโยบายรัฐบาล 80% หรือราว 8.6 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ขสมก. จะเสนอให้รัฐบาลช่วยรับภาระในส่วนหลังแทน

Avatar photo