Economics

YLG มองราคาทองคำยังไปต่อ! คาดปีนี้พุ่ง 27,200-27,350 บาท

ตลาดทองออนไลน์คึกคัก! “YLG” รุก “New Normal” ของธุรกิจค้าทองคำ ตั้งทีมเดลิเวอรี่ ปรับขนาดสินค้าให้เล็กลง พร้อมซื้อ-ขาย 24 ชั่วโมง คาดปีนี้ราคาเคลื่อนไหวพุ่ง 27,200-27,350 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อเป็นการหยุดการแพร่ระบาดของ COVID – 19 นั้น พบว่าช่วง 1 – 2 เดือน ที่ผ่านมาการซื้อขายทองคำออนไลน์เป็นหนึ่งในสินค้าที่นักลงทุนสนใจ โดยพบว่ามีทั้งการซื้อในรูปแบบของการลงทุนและการซื้อเพื่อเป็นของขวัญและเครื่องประดับ ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนจากเดิมที่เดินทางมาซื้อที่สาขาที่เป็นหน้าร้านมาสู่การซื้อแบบออนไลน์มากขึ้น ส่วนหนึ่งมองว่ามาจากการใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบันที่ไม่มีเวลาเดินทางไปหน้าร้าน เพราะติดปัญหาด้านการเดินทาง และช่วงเวลาที่ร้านเปิดเป็นช่วงเวลาทำงาน

ขณะที่การซื้อในช่องทางออนไลน์สามารถซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะว่าเลิกงานตอนกลางคืนก็สามารถซื้อทองในช่วงกลางดึกได้ สามารถส่งเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันในส่วนของการซื้อเพื่อลงทุนการซื้อออนไลน์ก็มีความสะดวก ปลอดภัย เพราะสามารถซื้อได้ในเวลาเดียวกับตลาดต่างประเทศเปิดทำการซื้อขาย และยังสามารถฝากทองไว้กับผู้ค้าอีกด้วย

ทองแท่ง1

“ทาง YLG ก็ได้ปรับระบบการให้บริการเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้น ด้วยการเพิ่มทีมงานเดลิเวอรี่ รวมถึงให้บริการผ่านไปรษณีย์ที่ให้การรับรองด้านความปลอดภัย และมีใบรับประกันให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วไม่พอใจสามารถส่งกลับมาโดยระบบเดลิเวอรี่ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาเปลี่ยนที่หน้าร้าน ซึ่งบริการมีตลอด 24 ชั่วโมง สามารถกดซื้อและจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที โดยราคาของการซื้อขายออนไลน์ก็เป็นไปตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศ การซื้อขายผ่านออนไลน์สร้างความปลอดภัยให้ลูกค้าไม่ต้องเสี่ยงเดินทางมาพบปะผู้คน จึงกลายเป็น New Normal ของธุรกิจค้าทองคำ ส่วนขนาดทองคำที่เราขายอยู่ก็ถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง เช่น ทองคำแท่งมูลค่า 1,000 บาท ทำให้ผู้คนนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญกันมากขึ้น” นางพวรรณ์ กล่าว

ด้านของการลงทุนในทองคำนั้น แม้ปีนี้ราคาทองคำจะปรับขึ้นมามากแล้ว จึงอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ แต่มองว่าทิศทางระยะยาวยังเป็นขาขึ้นไป ตราบใดที่ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกัน COVID – 19 ได้มากเพียงพอ รวมถึงธนาคารกลางและหลายประเทศทั่วโลกยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลัง บวกรวมกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกระเด็นต้นตอการระบาด COVID-19 เป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ

ทั้งนี้ มองแนวต้านแรกอยู่ที่จุดสูงสุดเดิมของปีนี้ คือ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,600 บาท หากผ่านไปได้มีลุ้นไปจะไปทดสอบเป้าหมายของปีนี้ที่ 1,788-1,795 ดอลลาร์ ต่อออนซ์หรือ 27,200-27,350 บาท

Avatar photo