Economics

วุ่น!! ไฟเขียวเปิดให้บริการ ‘ท่าเรือชายฝั่ง A’ แค่ 60%

ร.ท.ยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า โครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง A (ท่าเทียบเรือ A) ในท่าเรือแหลมฉบัง จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2561 ล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 3 เดือน เพราะการส่งมอบและติดตั้งเครนหน้าท่าล่าช้ากว่าแผน แต่เมื่อท่าเทียบเรือ A เปิดแล้วในเดือนธันวาคมก็จะทำงานได้เพียง 60% ของความสามารถทั้งหมด เนื่องจากยังไม่ได้ติดตั้งเครนหน้าท่าแบบเคลื่อนที่และหมุนรอบได้ (Mobile Harbor cranes) มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง เพราะการประมูลเครนประเภทนี้ถูกร้องเรียน จนต้องล้มไปหลายครั้ง

“การประมูลล้มไปแล้ว 3-4 ครั้ง เพราะเอกชนร้องเรียนกันไปมา ล่าสุดกำลังแก้ทีโออาร์เพื่อเปิดประมูลใหม่ ถ้าครั้งนี้ไม่มีปัญหา ก็จะใช้เวลาประมูลและติดตั้งอุปกรณ์ 11 เดือน เมื่อติดตั้งเสร็จก็จะทำให้ท่าเทียบเรือ A บริการได้เต็มความสามารถ” ร.ท.ยุทธนา กล่าว

สำหรับกรณีที่มีความกังวลว่าการลงทุนระบบไอทีในท่าเทียบเรือ A จะเข้าข่าย พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2560 (PPP) และต้องเริ่มกระบวนการขออนุมัติโครงการใหม่ทั้งหมดนั้น

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทท.) มีมติแก้ไขเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยบอร์ดได้อนุมัติงบประมาณเพื่อลงทุนระบบไอทีภายในท่าเทียบเรือ A ด้วยตัวเอง เหลือแต่การจ้างจ้างพนักงานภายนอก (Outsource) เข้ามาบริหารเท่านั้น จึงไม่ขัดกับกฎหมายพีพีพีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ โครงการท่าเทียบเรือ A ถูกริเริ่มในปี 2552 เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าชายฝั่งที่เติบโตขึ้น ต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบโครงการในปี 2558 และบรรจุโครงการอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action Plan) ของกระทรวงคมนาคม ปี 2559

ท่าเทียบเรือ A มีหน้าท่า 2 ฝั่ง ความยาว 120 เมตรและ 125 เมตร มีความสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้า 3 แสนที.อี.ยู. /ปี วงเงินการก่อสร้างอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท ทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าจากภาคกลางและภาคใต้เพื่อนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ช่วยลดค่าโลจิสติกส์ของประเทศและลดปัญหาการจราจรทางบก

Avatar photo