ที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนเรื่องมาตรการช่วยเหลือการแพร่ระบาดของโรคติดต่อติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย(สทท. ) ได้ออกแถลงการณ์สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่ประเทศไทย “หนุนรัฐบาลดำเนินมาตรการขั้นสุด ดัน Lockdown ประเทศ ฟื้นความเชื่อมั่น ก่อนหนี้เสียพุ่งทะลุแสนล้าน”
- ด่วน! ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 60 ราย ยอดรวมผู้ป่วยสะสม กระโดด 272 ราย ตะลึงติดทั้ง ‘ผับ’
- เจอเพิ่ม 110 คน ดันยอดติดเชื้อ ‘โควิด-19’ มาเลเซียแตะ 900
- อัพเดทสถานการณ์ ‘ไวรัสโควิด-19’ วันที่ 19 มีนาคม 2563
สทท.ขอแจ้งมายังทุกภาคส่วนของประเทศให้ทราบว่าในขณะนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมใจกันที่จะสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือการนำไปสู่การ Lockdown ประเทศ ซึ่งหมายถึงยุติกิจกรรมการท่องเที่ยวก็ตาม แต่หากสามารถช่วยเหลือให้ประเทศและภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยังคงรักษาไว้ได้ เราก็พร้อมเสียสละ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่สามารถควบคุมได้ในวงจำกัด และชัดเจนแล้วว่ากำลังส่งผลกระทบต่อเนื่องอย่างรุนแรง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา ซึ่งสทท.คาดการณ์ว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับ GDP ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวตัวเลขจะพุ่งถึง 1 ล้านล้านบาท หากสถานการณ์ยังดำเนินเช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่าย่อมไม่เป็นผลดีกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคำนึงถึงภาระหนี้สินที่มีภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีการกู้ยืมเงินจากระบบธนาคารไม่ต่ำกว่า 650,000 ล้านบาท และภาระหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หากภาครัฐไม่มีมาตรการเยียวยาเร่งด่วน
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ภาครัฐออกมาตรการอะไรมา ภาคเอกชนท่องเที่ยวพร้อมปฎิบัติไปด้วยกัน และยินดีร่วมมือกับรัฐบาล แม้ต้องมีการหยุดกิจการบางประเภท ซึ่งไม่ใช่แค่ 14 วัน หากจะยืดออกไปอีกเท่าไหร่ก็ให้บอกมา โดยทั้ง สทท.และสมาคมท่องเที่ยวใหญ่ๆทั้งหมด ทั้งในกรุงเทพและ 76 จังหวัด แม้จะปิดประเทศเราก็ยินดี เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องร่วมมือกัน หากหยุดการแพร่ระบาดไม่อยู่จะมีผลต่อชีวิตคนไทยมาก ยินดีให้ปิดกิจการบางอย่างหรือปิดหมดเลยก็แล้วแต่
ด้านนายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) และประธานคณะอนุกรรมการด้านความปลอดภัยของ สทท. กล่าวว่า หากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสยังเป็นเช่นนี้ ความเสียหายของธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งคนต่างชาติเที่ยวไทย คนไทยเที่ยวนอก และคนไทยเที่ยวในประเทศ จะเกิดความเสียหายรวม 1 ล้านล้านบาท ฉะนั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศ พร้อมและยอมหยุดกิจการของตัวเอง และอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ราชการได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อให้หมด เชื่อว่าภายใน 30 วันคงดีขึ้น
นการประชุมได้เชิญ น.พ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสารณสุข ร่วมด้วย โดยน.พ.วีรวุฒิ กล่าวในที่ประชุมว่า จากการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ได้เตรียมโรงพยาบาลทั้งรัฐเอกชน โรงพยาบาลของทหาร โรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่รับผู้ป่วย ต้องการให้โรงแรมต่างๆ ไม่ต้องการถึงระดับ4-5 ดาว
ต้องการระดับ 2-3 ดาว ต้องเป็นระบบแอร์แยกห้อง ไม่ใช้แอร์รวม ขอให้มาร่วมรองรับผู้ป่วยที่อาการไม่มาก แค่มีไข้ เจ็บคอ ไม่ต้องให้น้ำเกลือ คนไข้จะอยู่แต่ในห้อง ส่งแค่อาหารกล่องให้ ไม่ต้องกลัวพนักงานจะได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลจะมีค่าใช้จ่ายให้
การที่ต้องขอความร่วมมือจากโรงแรมอีกกรณีหนึ่ง เพื่อไว้กักกันคนกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ติดเชื้อเพราะการนำไปกักกันที่บ้านตัวเอง โดยมี อสม.หรือจังหวัดดูแล อาจไม่ได้ผลทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด