Economics

‘พลังงาน’ คัดนโยบายเร่งด่วน 3 เดือน ดันโรงไฟฟ้าชุมชนโมเดล 1 ต้องเห็นผล

“สนธิรัตน์” เร่งสปีดโครงการเร่งด่วน 3 เดือน พร้อมตรวจการบ้าน 14 พฤศจิกายน หวังผลักดันนโยบายเศรษฐกิจฐานรากให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว กระตุ้นข้าราชการทำงานเชิงรุก ดันงบประมาณประจำปีกระทรวงพลังงานเพิ่ม 

DSC 5119

วันนี้ (24 ต.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกหน่วยงานต่างๆหารือแผนขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน (Policy Quick Start) ของกระทรวงพลังงาน โดยที่ประชุมได้จัดลำดับความสำคัญ และเร่งด่วน

โดยมีการรวบรวมโครงการทั้งหมดประมาณ 40 โครงการมาจัดลำดับความสำคัญ แบ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี 

สำหรับโครงการที่จะทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ประกอบด้วย

  • ด้านไฟฟ้า การจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน โมเดล 1 การปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) การใช้และรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน การส่งเสริมรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
  • ด้านน้ำมัน ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ดีเซล บี 10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐาน การกำกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แผนบริหารเอทานอล ที่นำมาเป็นส่วนผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ การส่งเสริมปั๊มชุมชน การปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซ การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง การพิจารณาแผนน้ำมัน (Oil Plan)
  • ด้านก๊าซ ได้แก่ การช่วยค่าครองชีพด้วยการลดค่าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อเร่งทดสอบระบบการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ (TPA) การพิจาณาแผนก๊าซ (Gas Plan)

DSC 5098

ส่วนโครงการเร่งด่วนระยะปานกลาง ที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน อาทิ การพัฒนาระบบสายส่งให้พร้อมรองรับพลังงานหมุนเวียน ( Grid Modernization) ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS) กรอบนโยบายและการซื้อไฟจากต่างประเทศ การศึกษาและพัฒนาระบบ Big Data โรงไฟฟ้าชุมชน โมเดล 2-3 การแก้ปัญหาพื้นที่สปก. ในการสำรวจแหล่งก๊าซฯบนบก การปรับปรุงเกณฑ์โรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชน

สำหรับโครงการระยะกลางที่จะให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี มีประเด็นที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าอาเซียน การเดินหน้าเจรจาให้ได้ข้อยุติ เรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา (OCA) การจัดทำมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นยูโร 5 และยูโร 6 แผนการเปิดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ การศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาศูนย์กลางแอลเอ็นจี และการนำความเย็นจากแอลเอ็นจีมาใช้ประโยชน์

โดยได้มอบให้หน่วยงานต่างๆ นำประเด็นเหล่านี้ไปจัดทำขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อบรรลุเป้าหมาย (Milestone) ที่ชัดเจนภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 และให้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน (กยผ.) สรุปจัดทำแผนเสนอต่อที่ประชุม เพื่อขับเคลื่อนประเด็นนโยบายต่อไป ถือเป็นเป็นกรอบการดำเนินงานของกระทรวงหลังจากนี้ สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนจะประกาศหลักเกณฑ์ภายในเดือนพฤศจิกายน

นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ในการประชุมครั้งต่อไป จะเริ่มตรวจการบ้านว่าสิ่งที่ได้มอบหมายไปนั้น มีการขับเคลื่อนได้เป็นไปตามแผนหรือไม่  หากมีอุปสรรคที่ภาคราชการ ซึ่งลำพังเฉพาะกระทรวงพลังงานอาจแก้ไขไม่ได้ จะผลักดันในภาพใหญ่ของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้

“ภารกิจกระทรวงพลังงานปัจจุบันมีมาก และหลากหลาย การขับเคลื่อนต้องสอดรับ และผลเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด จะเอานโยบายเก่าที่ดีอยู่แล้ว มาปรับกับนโยบายใหม่ เช่น โรงไฟฟ้าชุมชน และต้องสอดทำให้สอดรับกับงบปี 2564 ด้วย ขณะเดียวกันก็จะนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยปลัดกระทรวงพลังงานจะเป็นหัวหน้าทีมนำ Big Data มาใช้ให้มากขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ และนำข้อมูลไปเผยแพร่ในวงกว้าง “

10102019 ๑๙๑๐๒๔ 0093

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริมว่า นายสนธิรัตน์ ยังให้การบ้านในเรื่องการปรับยุทธศาสตร์กระทรวง ให้ทำงานเชิงรุก ออกนอกกรอบ เพราะงบประมาณกระทรวงพลังงานน้อยประมาณ 2,000 ล้านบาทเศษ และถูกตัดด้วย จึงต้องคิดโครงการที่ฉีกแนวออกไป เพื่อให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากขึ้น และนายสนธิรัตน์ ยังเชื่อมโยงมาถึงการจัดทำร่างงบประมาณปี 2564 ที่จะส่งในเดือนมกราคม 2564 ให้โครงการที่ยื่นของบประมาณจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กระทรวง

 

Avatar photo