Economics

กองทุนอนุรักษ์ฯ เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน เปิดของบปี 63 หมื่นล้านธ.ค.นี้

บอร์ดกองทุนฯ ปรับลดงบ 5 ปีเหลือ 50,000 ล้านบาท หลังยอดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯน้อยลง  เตรียมเปิดยื่นของบปี 63 วงเงิน 10,000 ล้านบาทเดือนธันวาคมนี้ พร้อมตั้ง 4 คณะทำงานตรวจสอบถ่วงดุลการใช้เงิน เน้นความโปร่งใส หลังมียอดค้างกว่า 15,000 ล้าน เหตุไม่ผ่านหลักเกณฑ์ 

วันนี้ (10 ต.ค.) ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนัดแรกของคณะกรรมการฯชุดใหม่

DSC 4597

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงมติที่ประชุมว่า มีมติเห็นชอบลดงบรายจ่ายเงินกองทุน ปีงบประมาณ 2563 – 2567 เหลือ 50,000 ล้านบาท หรือ ปีละ 10,000 ล้านบาท จากเดิม 5 ปีวงเงิน 60,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนฯจากน้ำมันทุกลิตร ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2561 เหลือ 10 สตางค์ต่อหน่วย จึงต้องลดการใช้งบกองทุนฯ เพื่อรักษาเสถียรภาพของกองทุนฯ

ประกอบกับมองว่าอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จะมาแทนรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้ยอดการจัดเก็บลดลงด้วย โดยขณะนี้เงินไหลเข้ากองทุนฯเหลือเดือนละ 100-300 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ 600-800 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังปรับสัดส่วนการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ให้เป็นแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 50 % แผนพลังงานทดแทน 47 % แผนบริหารจัดการ สำนักงานกองทุนฯ 3 % จากเดิมกำหนดแผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ 70 % แผนพลังงานทดแทน 30%

ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่มีโครงการพัฒนาพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยโรงไฟฟ้าชุมชนจะอยู่ในกรอบที่สามารถขอใช้เงินกองทุนฯได้ แต่จะมีการวางหลักเกณฑ์การใช้เงินให้ชัดเจนก่อน ส่วนการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ก็ยังเป็นโครงการที่อยู่ในเกณฑ์การใช้จ่ายเงินกองทุนฯและเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับเกษตรกร

และเพื่อให้กองทุนฯสอดคล้องกับมติการทำงานใหม่ ที่มุ่งเน้นความโปร่งใส ได้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ 4 คณะ  ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีตนเองเป็นประธาน  ,คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน  ,คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการภายใต้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งกำลังมีการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ เป็นประธาน ซึ่งจะช่วยติดตามและประเมินผลจากเดิมไม่มี

10102019 ๑๙๑๐๑๐ 0031

นายสนธิรัตน์ ระบุว่าจะเร่งนำแผนการใช้จ่ายเงินกองทุนฯเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)โดยเร็วภายในเดือนนี้ เพื่อเริ่มเปิดให้ยื่นโครงการขอใช้เงินประจำปี 2563 ภายในเดือนธันวาคม ซึ่งถือว่าล่าช้า จากที่จะต้องเปิดตั้งแต่เดือนตุลาคม

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า งบเบิกจ่ายจากกองทุนฯ มียอดค้างสะสมรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นโครงการที่ผิดระเบียบ หลักเกณฑ์ ไม่สามารถอนุมัติได้ รวมทั้งโครงการที่มีการตั้งเบิกล่าช้า

โดยที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ของการขอเบิกจ่ายงบกองทุนฯ เนื่องจากมีการเปิดช่องให้มีการนำเสนอโครงการของบ ผ่านหน่วยงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)แทนช่องทางพลังงานจังหวัด ซึ่งหน่วยงานที่ยื่นขอ อาจขาดความเข้าใจเรื่องระเบียบ กฏเกณฑ์ จึงดำเนินการไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ทำให้สำนักงานกองทุนฯไม่สามารถอนุมัติการจ่ายเงินได้

 

Avatar photo