กมธ.พลังงาน สภาฯ กระตุ้นกระทรวงพลังาน เร่งส่งเสริมรถอีวีในขนส่งสาธารณะ เสนอพร้อมทำงานร่วม
วันนี้ (9 ต.ค.) นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ประธานคณะกรรมาธิการ การพลังงาน และคณะ เข้าหารือนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นการดำเนินโยบายด้านพลังงานของประเทศ โดยพร้อมทำงานร่วมกัน และจะมีการหารือกันเป็นระยะ
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการหารือว่า มีประเด็นที่สำคัญในการหารือครั้งนี้ ได้แก่ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งทางกมธ.สอบถามความคืบหน้าการดำเนินการของกระทรวงพลังงาน ที่มีบทบาทหลักในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
โดยกระทรวงพลังงานได้ชี้แจงว่า ได้วางแผนเรื่องปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมันดีเซล บี 10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศเพื่อส่งเสริมปาล์มน้ำมัน และลดค่าฝุ่น PM 2.5 ตั้งเป้าหมายส่งเสริมให้เกิดการใช้ประมาณ 57 ล้านลิตรต่อวันภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2563
และส่งเสริมการใช้ บี 20 สำหรับรถบรรทุก โดยกระทรวงกำหนดให้ บี 10 เป็นดีเซลฐานต่อไป ไม่มีการปรับลดเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้หากสถานการณ์เกิดการขาดแคลนน้ำมันปาล์มดิบ ก็ต้องพิจารณาเรื่องของการนำเข้าแทน ทั้งนี้เพื่อจะได้สามารถควบคุมการใช้ไบโอดีเซลมาเป็นส่วนผสมน้ำมันดีเซลได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการผลิต บี10 นี้สามารถดูดซับส่วนเกินน้ำมันปาล์มดิบได้ถึงปริมาณ 2 ใน 3 และต่อไป ก็จะพิจารณาในกลุ่มเบนซินที่นำพืชพลังงานอ้อย มันสำปะหลัง มาเป็นส่วนผสมเพิ่มขึ้น
ประเด็นเรื่องส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) กระทรวงพลังงาน จะเป็นหลักในการส่งเสริมแบตเตอรี่ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และจะประกาศเป็นนโยบายร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า กระตุ้นการใช้รถอีวีให้เกิดการลงทุนจากประเทศต่างๆ
ทั้งนี้กมธ.มีความกังวลเรื่องนี้ว่า อีวีเป็นเรื่อง Disruptive ด้านพลังงานที่กำลังมาเร็ว จึงต้องการกระตุ้นเกิดการปฏิบัติเป็นรูปธรรม ทั้งในรูปของการขนส่งสาธารณะ รถโดยสารสาธารณะ เรือสาธารณะ ให้มีการใช้เชื้อเพลิงไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งกมธ.พร้อมจะทำงานร่วมกับกระทรวงพลังงาน
ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน ทำอย่างไรให้โรงไฟฟ้าชุมชนกระจายรายได้สู่ชุมชน กลุ่มฐานรากได้ประโยชน์อย่างแท้จริงไม่ใช่ประโยชน์ตกแก่ภาคเอกชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้แจ้ง กับกมธ.ว่า โรงไฟฟ้าชุมชนจะมีการจัดระดมสมองเกี่ยวกับการจัดตั้งโมเดลโรงไฟฟ้าชุมชนจากผู้เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน
สำหรับน้ำมันปาล์ม กมธ.ให้พิจารณาเรื่องการนำน้ำมันปาล์มดิบมาเผาผลิตไฟฟ้า ว่าทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ควรทยอยซื้อเป็นล็อตย่อย เพื่อกระตุ้นราคาปาล์มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นนี้ ทางรัฐมนตรได้ชี้แจงว่าเป็นนโยบายต่อเนื่องมา แต่ต่อจากนี้ไปกระทรวงพลังงานจะสนับสนุนในเชิงนำน้ำมันปาล์มาผลิตเป็นดีเซลเป็นหลัก ไม่สนับสนุนการนำไปผลิตเป็นไฟฟ้า
นอกจากนี้ กมธ.ยังเสนอให้สนับสนุนงบประมาณ 100% ให้กับโรงพยาบาลชุมชนติดโซลาร์เซลล์ เพื่อช่วยประชาชน ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้สนับสนุนให้โรงพยาบาลชุมชนอยู่แล้วผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน แต่อาจจะยังไม่แพร่หลายและครอบคลุมทุกพื้นที่ในปัจจุบัน
