“คาลเท็กซ์” กลับสู่สนามการแข่งขันค้าปลีกน้ำมันอีก ทุ่มทุน 6,000 ล้านบาทขยายปั๊มใหม่ 50 แห่ง/ปีต่อเนื่อง พร้อมปรับโฉม “Caltex Smart Station” สมบูรณ์แบบ รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล มั่นใจสร้างยอดขายเพิ่ม 3 เท่าต่อปั๊ม-แชร์เติบโต
หลังจากหยุดลงทุนขยายปั๊มมาหลายปี ล่าสุด “คาลเท็กซ์” กลับมาสู้ศึกธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอีกครั้ง ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ที่พบว่าเปลี่ยนแปลงไป เป็นโอกาสเติบโต ทุ่มงบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท วางกลยุทธ์ “Smart Value for All” ปรับโฉมปั๊ม “Caltex Smart Station” เปิดแฟลกชิฟรูปแบบใหม่แห่งแรกที่ ไฮเท็กซ์ เพชรพระเทพ บนถนนพรานนก – พุทธมณฑล เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ
นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าวว่า กลยุทธ์ “Smart Value for All” เป็นก้าวย่างที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำเครือข่ายปั๊มครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่คำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญในด้านต่างๆ อาทิ Smart Station, Smart Service, Smart Digital Platform, Smart Partnership และ Smart Product
โดยวางงบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทในช่วงปี 2561 – 2564 ขยายปั๊มน้ำมันใหม่ปีละ 50 แห่งเป็นรูปแบบ Smart Station 20% หรือประมาณ 10 แห่งลงทุนแห่งละ 50 ล้านบาทไม่ร่วมค่าที่ดิน ส่วนที่เหลืออีก 40 แห่ง จะเป็นปั๊มรูปแบบทั่วไป สำหรับแผนขยายปั๊มครั้งนี้ ทำให้ในปี 2564 คาลเท็กซ์จะมีปั๊มเพิ่มเป็น 570 แห่ง
และด้วยนวัตกรรมที่เราพัฒนาขึ้น ทำให้แตกต่างจากผู้ค้าน้ำมันรายอื่น ทั้งการปรับโฉม และการบริการที่เป็น Smart Station รวมถึงการมีน้ำมันคุณภาพ “คาลเท็กซ์ เทครอน” มั่นใจว่าจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.3%
“การกลับมาขยายปั๊มน้ำมันของเราอีกครั้งในรอบหลายปี เพราะเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ภายหลังมีการวิเคราะห์ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เมื่อเราฟังฟังเสียงผู้บริโภค และนำมาวิจัยพัฒนา เพื่อตอบสนองความต้องการทำให้คาลเท็กซ์เติบโตแน่นอน ประกอบกับการลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆจะต้องมีจำนวนปั๊มระดับหนึ่งด้วย เราจึงทุ่มเม็ดเงินลงทุน เพื่อขยายปั๊มให้มีมากพอ ”
นายซาลมาน ระบุว่า ปั๊มที่เราจะเลือกเป็น “Caltex Smart Station” จะต้องดูหลายๆองค์ประกอบ โดยเฉพาะปริมาณการจราจรในย่านนั้นว่าหนาแน่นอย่างไร ปั๊มแรกที่ ไฮเท็กซ์ เพชรพระเทพ ตั้งอยู่บนถนนพรานนก – พุทธมณฑล แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน ซึ่งเราเปิดในวันนี้ (17 ก.ย.) มีพื้นที่รวม 4 ไร่ โดยคาดการณ์ว่าปั๊มโฉมใหม่ จะช่วยเพิ่มยอดขาย กว่า 3 เท่า จากเฉลี่ย 270,000 ลิตรต่อเดือนต่อปั๊ม เป็น 700,000 ลิตร
โดยมีการจับมือกับพันธมิตรหลายราย อาทิ ร้านกาแฟ “Gloria Jean’s” กาแฟสัญชาติออสเตรเลีย ที่เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้กับปั๊มได้อย่างดี รวมถึง มินิ บิ๊กซี ,เคเอฟซี ,เดลี่ควีน ,สตาร์บัคส์ ,เบอร์เกอร์คิง ,แฟมิลี่ มาร์ท ,บริการล้างรถ Washched และ J Wash
สำหรับคอนเซปต์ของ “Smart Station” ประกอบด้วย แท่นจ่ายน้ำมัน หลังคา และเสา ที่ออกแบบให้สง่างาม และร่วมสมัย รองรับยุคดิจิทัล มี Traffic Board และ Digital Monitor เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นข้อมูลได้อย่างชัดเจนตลอดระยะเวลาในการเติมน้ำมัน และตอบรับสังคมไร้เงินสด มีเครื่องรูดบัตรไร้สาย เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจ ถือว่าคาลเท็กซ์เป็นปั๊มแรกที่ให้บริการ
รวมถึงมีแอปพลิเคชั่น “CaltexGo” บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ลูกค้าชำระเงินโดยสแกนคิวอาร์โค้ดไม่ต้องใช้เงินสด และสะสมคะแนน นอกจากนี้สถานีบริการยังได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียว เพื่อความร่มรื่น
โดยปั๊มน้ำมันแฟลกชิพหลายแห่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และเจรจาทำสัญญา ภายใน ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ จะมีปั๊มเปิดเพิ่มอีกหลายแห่ง อาทิ สาขา พอร์โต้ โก ท่าจีน บนถนนพระราม 2 และ JAS อมตะ เป็นต้น
สำหรับการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการขายพลังงานทดแทนนั้น นายซาลมาน ระบุว่า เราขายทุกผลิตภัณฑ์ แต่จะเลือกตามทำเลที่ตั้งของปั๊ม หากเป็นปั๊มในเขตกทม.และปริมณฑลก็จะขายผลิตภัณฑ์รองรับรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ส่วนในต่างจังหวัดเป็นขนส่ง ก็จะเน้นขายไบโอดีเซล เช่น ดีเซล บี 20 ที่รัฐกำลังส่งเสริม เป็นต้น
นายเกล็น จอห์นสัน รองประธานกรรมการใหญ่ ภาคพื้นเอเชีย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สากล บริษัทเชฟรอน เอเชีย กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราตัดสินใจลงทุนในไทยอีกครั้ง
ประกอบกับเรามั่นใจในคุณภาพน้ำมัน “คาลเท็กซ์ เทครอน” จึงทุ่มเม็ดเงินลงทุนปรับโฉมปั๊มน้ำมัน และการบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค ถือว่าไทยเป็นพื้นที่แรกของภูมิภาคที่คาลเท็กซ์ทำแฟลกชิพรูปแบบใหม่ “Caltex Smart Station” ถือเป็นเป็นต้นแบบที่เราจะขยายออกไป
