Economics

‘สนธิรัตน์’ พร้อมให้กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีรอบหน้า ขอเวลาศึกษาข้อมูล

“สนธิรัตน์” ยืนยันพร้อมให้กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีรอบหน้า ขอเวลาศึกษาข้อมูลรอบด้าน ปริมาณ-จังหวะเวลาที่เหมาะสม คาดได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีก่อนให้เดินหน้าต่อ วางหลักต้นทุนค่าไฟต้องไม่สูงขึ้น

DSC 3167

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตัน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้น น่าจะจบลงได้แล้ว โดยยืนยันว่าต้องเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ให้ยกเลิกการประมูลไปก่อน

เพราะมีคำถามเกิดขึ้นซึ่งอยู่บนหลักการที่สำคัญ 4 เรื่อง คือ 1.สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ปริมาณก๊าซฯเกินความต้องการ 2. มี Take or Pay หรือไม่ใช้ ก็ต้องจ่าย เพราะก๊าซฯในภาพรวมเกินความต้องการ 3. การนำเข้ากระทบค่าไฟ และ 4. การเปิดเสรีกิจการก๊าซฯยังไม่เปลี่ยนแปลง 

เมื่อมีคำถาม และกฟผ.จะต้องลงนามในสัญญากับบริษัทที่ชนะประมูลภายในเดือนกันยายนนี้ จึงต้องยกเลิกก่อน

แต่ทั้งหมดไม่ได้หมายถึงเราจะยกเลิกไม่ให้กฟผ.นำเข้าไปเลย ในระยะเวลาไม่นานก็จะต้องให้กฟผ.เปิดประมูลนำเข้า แต่ปริมาณอาจจะต้องปรับ และระยะเวลานำเข้าต้องเหมาะสม ทำอย่างไรให้ได้ก๊าซฯราคาถูก

โดยเรื่องนี้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานไปศึกษาร่วมกับคณะทำงาน และน่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ หลังจากได้ข้อสรุป กฟผ.ก็เดินหน้าประมูลได้แน่นอน

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นนี้ ที่กฟผ.ยังไม่มีประสบการณ์ในการนำเข้าก๊าซฯมาก่อน ในที่ประชุมกบง.จึงสรุปให้นำเข้าในตลาดจร (spot) 2 ลำเรือ ลำละ 90,000 ตัน รวม 180,000 ตันเพื่อทดสอบระบบ

นายสนธิรัตน์ กล่าวย้ำว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีของกฟผ.นั้น มีมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รองรับว่า เมื่อนำเข้ามาแล้วต้องแยกราคาออกมาต่างหากเรียกว่า pool 2 หรือ ต้นทุนราคาก๊าซฯของกฟผ. ไม่นำไปรวมเป็น pool 1 ที่มีมาก่อน ซึ่งเป็นต้นทุนก๊าซฯเฉลี่ยประกอบด้วย สัญญานำเข้าปตท. ก๊าซฯในอ่าวไทย และก๊าซฯจากเมียนมาร์

“เมื่อมติกพช.ให้แยก pool กฟผ. ก็ต้องเป็นอย่างนั้น หน่วยงานที่ทำข้อมูลค่าไฟฟ้าจึงมีการรายงานว่าค่าไฟจะปรับขึ้นจากการนำเข้าของกฟผ.ครั้งนี้ ไม่ใช่ผมเป็นคนพูด อย่างไรก็ตามหลักการสำคัญ คือ การนำเข้าของกฟผ.ต้องทำให้ค่าไฟถูกลง “

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่มีอะไรบานปลาย ทางผู้บริหารกฟผ.และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็คงทำความเข้าใจร่วมกันถึงสถานการณ์และข้อมูลต่างๆ

Avatar photo