กลายเป็นศึกช้างชนช้าง เมื่อ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) นำแบริเออร์มาปิดทางเข้า-ออกโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ก่อนที่เซ็นทรัล วิลเลจจะเปิดให้บริการเพียง 9 วัน นำมาซึ่งการร้องศาลปกครอง เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวโดยนัดไต่สวนในวันนี้ (28 ส.ค.)
ประเด็นหลักของเรื่องนี้ อยู่ที่ ทอท.กล่าวอ้างว่า ทางเซ็นทรัล วิลเลจ ก่อสร้างรุกล้ำในที่ราชพัสดุ บริเวณไหล่ทางถนน 370 ที่เชื่อมโครงการกับถนน 370 และได้แจ้งให้เซ็นทรัลรื้อออกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ก่อนหน้านี้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า กรมทางหลวงเป็นผู้ก่อสร้างถนนสายนี้ก็จริง แต่กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของกรมธนารักษ์ ซึ่งเซ็นทรัลไปขออนุญาตกับกรมทางหลวง ซึ่งกรมทางหลวงก็คิดว่ามีอำนาจ เลยอนุญาตโดยบริสุทธ์ใจ ก่อนหน้านี้ก็อนุญาตมาแล้ว 37 ราย แต่จริงๆ แล้วอำนาจการอนุญาตเป็นของ ทอท. เพราะมีประกาศกรมธนารักษ์ให้อำนาจ ทอท.จัดการกับผู้บุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวได้
ขณะที่ทางเซ็นทรัลพัฒนา ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ได้มีการตรวจสอบแล้วว่า กรมทางหลวงได้ขึ้นทะเบียนถนน 370 เป็นทางหลวงแผ่นดินแล้ว จึงถือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และเซ็นทรัล วิลเลจได้รับอนุญาตให้เชื่อมทางอย่างถูกต้องจากกรมทางหลวง
“ที่สำคัญคือ ไม่ใช่เซ็นทรัลเพียงรายเดียวที่ขออนุญาตเชื่อมทางกับกรมทางหลวง แต่มีผู้ยื่นขออนุญาตใช้ประโยชน์ถึง 37 ราย โดยไม่เคยมีใครไปขออนุญาตจาก ทอท.เลย”นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าว
ส่วนกรณีที่ ทอท. กล่าวถึงประเด็น “ไหล่ทาง” นั้น นายปรีชาชี้แจงว่า คำว่าถนนสาธารณะ หมายรวมถึงพื้นที่ถนนที่รวมไหล่ทางแล้ง ซึ่งกรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยที่ดินของโครงการมีแนวเขต “แนบสนิทต่อเนื่อง” กับเขตของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังมองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการตีความฝ่ายเดียว และเป็นข้อสับสนระหว่างภาครัฐที่ต้องไปคุยกันให้ชัดเจน ขณะที่บริษัทเป็นภาคเอกชน มีหน้าที่ทำอย่างถูกต้องตามกฏหมาย การตีความฝ่ายเดียวแล้วมาปิดโครงการโดยพละการถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิผู้อื่น
“แค่ปิดทางเข้าโครงการก็ส่งผลให้ร้านค้า 150 ร้านที่มีพนักงานนับ 1,000 คนไม่รวมผู้รับเหมาที่ต้องเร่งก่อสร้างโครงการให้เสร็จ ทุกคนเครียด จึงอยากให้เรื่องนี้ยุติลงด้วยดี และยินดีที่จะร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน”
สำหรับการร้องศาลปกครองที่นัดไต่สวนวันนี้ หากผลออกมายังไม่มีข้อยุติ เซ็นทรัล ก็พร้อมจะเดินหน้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ ทอท.เปิดทางเข้าออก และมีปัญหาอะไรค่อยมาคุยกัน
ผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนายอมรับว่า ในช่วงการขออนุมัติเพื่อเชื่อมทางเข้าโครงการ ทาง ทอท.แสดงความไม่เห็นด้วย แต่เพราะอำนาจการอนุมัติอยู่ที่กรมทางหลวง ซึ่งอนุญาตให้โครงการทำทางเชื่อมได้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ ทอท.กับกรมทางหลวงต้องไปเคลียร์กันเพื่อหาความชัดเจน ขณะที่เซ็นทรัลเองในฐานะเอกชนมีหน้าที่ทำตามกฏหมายให้ถูกต้อง
ทางออกของเรื่องนี้ จึงน่าจะอยู่ที่การให้ศาลปกครองตัดสินว่า แท้จริงแล้วอำนาจในการอนุมัติใช้ประโยชน์ทางหลวง เพื่อเชื่อมต่อเข้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ จะเป็นของหน่วยงานไหนกันแน่ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายมหาศาลและเสียภาพลักษณ์ โดยเฉพาะภาพที่อาจจะออกว่าภาคเอกชนโดนรังแก อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนได้
