“รมว.คลัง” ยืนยันพร้อมให้ “กองทุนวายุภักษ์” ใส่เงินเพิ่มทุน “ธนาคารทหารไทย” 15,000 ล้านบาท
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการควบรวมธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต (TBANK) ว่าในส่วนของกระทรวงการคลัง จะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ TBANK กลับมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TMB ซึ่งหลังการควบรวมแล้วจะทำให้การบริหารงานของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการรวมจุดแข็งของ 2 ธนาคารที่ลงตัวเข้าไว้ด้วยกัน
โดยธนาคารธนชาตมีความเชี่ยวชาญด้านเช่าซื้อ ขณะที่ธนาคารทหารไทยมีความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งการควบรวมดังกล่าวจะทำให้การทำงานดีขึ้น และเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
โดยภายหลังการควบรวมแล้วจะยังคงใช้ชื่อ “ธนาคารทหารไทย” เหมือนเดิม โดยกลุ่มไอเอ็นจี ถือหุ้น 21% บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ถือหุ้น 20% กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 18% โดยยังมีเงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งประธานกรรมการธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือกับ CEO ของธนาคารทหารไทยแล้ว และยังดำเนินงานต่อไปปกติ
ทั้งนี้ รมว.คลัง คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการจัดการระบบภายในต่างๆ หลังการควบรวม แต่การควบรวมจะเกิดขึ้นภายในปีนี้เพื่อได้สิทธิลดหย่อนภาษี
“ภายหลังการควบรวมจะทำให้สถานะของธนาคารขยับขึ้นเป็นธนาคารขนาดใหญ่ อันดับ 6 ของประเทศ มีขนาดทรัพย์สิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง แต่ผลตอบแทนจะได้มากขึ้น” นายอุตตม กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในสัญญาการรวมกิจการครั้งนี้มีการตกลงไว้คือชื่อภาษาไทย “ธนาคารทหารไทยธนชาต” ชื่ออังกฤษ TMBThanachart Bank แต่ยังรอขออนุมัตืจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
- ‘ทีเอ็มบี’ ควบรวม ‘ธนชาต’ ยันไม่ปลดพนักงาน พร้อมจัดทัพผู้บริหารใหม่
- ปิดดีลควบแบงก์ ‘ทีเอ็มบี-ธนชาต’ คาดกระบวนการจบสิ้นปีนี้