Economics

ชี้ช่องส่งออก ‘ซีแอลเอ็มวี’ เชื้อเพลิง เครื่องจักร เครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ สดใส

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยส่งออกไทยไปซีแอลเอ็มวี สัญญาณยังดีต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกแตะ 4.33 แสนล้านบาท พร้อมจัดทำยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “Stronger Together” มุ่งเป้าไปที่การสร้างแบรนด์อาเซียนให้มีความแข็งแกร่ง และการใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ

นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 1
วิทยากร มณีเนตร

นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) เป็นพื้นที่ดาวเด่นและน่าสนใจของนักลงทุนทั่วโลก ด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์และทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค รวมทั้งปัจจัยในด้านคมนาคมขนส่ง แรงงาน และการปรับตัวของประชากรที่ก้าวไปสู่สังคมเมืองที่เอื้อต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายๆประเภท

ในอนาคตอันใกล้ ภูมิภาคดังกล่าวยังจะกลายเป็นช่องทางการค้าที่มีความสำคัญ รวมทั้งเป็นภูมิภาคที่ประเทศมหาอำนาจจะเริ่มเข้ามาสร้างความสัมพันธ์และโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยควรใช้ความได้เปรียบจากการเป็นศูนย์กลางสร้างบทบาทต่างๆให้เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในด้านการเงิน การเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยี การกระจายสินค้า รวมทั้งการกำหนดนโยบาย มาตรการ และสิทธิประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับในครึ่งปีแรก 2562 (มกราคม – มิถุนายน) การส่งออกของประเทศไทยไปยังซีแอลเอ็มวี ยังคงเติบโตใกล้เคียงกับปี 2560 และปี 2561 โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 4.33 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2561 มีมูลค่าอยู่ที่ 4.36 แสนล้านบาท และปี 2560 มีมูลค่า 4.11 แสนล้านบาท โดยประเทศที่มูลค่าการส่งออกของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องได้แก่ เวียดนาม โดย 6 เดือนแรกของปี 2560 , 2561 และ 2562 มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.8 , 1.85 และ 1.93 แสนล้านบาทตามลำดับ และกัมพูชา มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 8.6 หมื่นล้านบาท 1.07 แสนล้านบาท และ 1.09 แสนล้านบาทตามลำดับ

ส่งออก

สำหรับกลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการใน กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ได้แก่ น้ำมันและเชื้อเพลิง เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องดื่ม ชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งถือว่ายังมีมูลค่าการส่งออกและเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดทำยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานด้านการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “Stronger Together” หรือเติบโตไปด้วยกัน เพื่อรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าในรูปแบบต่างๆที่มีต่ซีแอลเอ็มวี และไทย รวมถึงอาเซียนที่กำลังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ไทยและประเทศสมาชิกสามารถบูรณาการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอื้อโอกาสและสิทธิประโยชน์ต่างๆในรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน พร้อมทั้งสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างก้าวหน้าและยั่งยืน

ล่าสุด กรมได้ผนึกกำลังร่วมกับสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(TPSO) ร่วมกันผลักดันให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนกลยุทธ์ แนวคิด และประสบการณ์ รวมถึงกระชับความสัมพันธ์ผู้นำทางเศรษฐกิจ จากทั้งภาครัฐและเอกชนภายใต้ โครงการ CLMVT Executive Program on New Economy โดยที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวได้สร้างครือข่าย และโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะการสะท้อนถึงปัญหา อุปสรรค และนโยบายการแก้ไขที่จะช่วยให้ก้าวทันกับบริบทของการค้าโลก

โรงกลั่น

ด้าน นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า โครงการ CLMVT Executive Program on New Economy เป็นโครงการที่รัฐบาลมุ่งเน้นส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศซีแอลเอ็มวี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ จึงได้ริเริ่มโครงการนี้เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนภายในกลุ่มประเทศดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้เชิญ Professor Len Middleton และ Dr.Krishnan วิทยากรจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รอสส์ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการสร้างแบรนด์และกลยุทธ์การตลาด ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก มาทำ เวิร์กช้อป เรื่องการสร้างแบรนด์ และจัดสัมมนา Cross-Border Digital Trade Conference นำเสนอการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันอีกด้วย

Avatar photo