Economics

‘เจดีดอทคอม’ยกระดับสินค้า-โปรดักท์เชนสมาชิก ACMECS ดันรายได้ชนบท

ในงาน ACMECS CEO Forum “Connecting Our Future: Enhancing ACMECS Cooperation and Integration” ที่กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้  เจดีดอทคอม ผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซและบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ได้ประกาศร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศสมาชิก ACMECS หรือ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง โดยจะมุ่งแก้ไขปัญหาความยากไร้ในพื้นที่ชนบทผ่านการสร้างโปรดักท์เชน ที่มีคุณภาพและติดตามได้

พร้อมสร้างประโยชน์กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในพื้นที่ บริษัท หรือผู้บริโภค และจะเริ่มโครงการนำร่องกับประเทศไทยเป็นประเทศแรก

ริชาร์ด หลิว เจดีดอทคอม JD.com

นายริชาร์ด หลิว ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีดอทคอม จำกัด กล่าวว่า เจดีดอทคอม เห็นถึงกระแสความนิยมของสินค้าไทยในประเทศจีน อย่าง “ทุเรียน” แต่พบว่าเกิดปัญหาสำคัญคือการแข่งขันราคาระหว่างผู้ค้าทุเรียนให้ต่ำที่สุดเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เป็นผลให้ผู้จำหน่ายชาวจีนต่อรองและกดราคาทุเรียนจากประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อเนื่องให้คุณภาพของทุเรียนในตลาดจีนต่ำลงตามไปด้วย

ดังนั้น เจดีดอทคอม จึงมุ่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านโครงการด้านอีคอมเมิร์ซ ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและลดปัญหาความยากไร้ในพื้นที่ชนบท จะยังช่วยพัฒนาคุณภาพทุเรียนไทยให้ได้มาตรฐานและสร้างแบรนด์ทุเรียนไทยให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบัน เจดีดอทคอม ได้ทำงานร่วมกับองค์กรในท้องถิ่นเพื่อพัฒนามาตรฐานทุเรียนไทย โดยจะติดป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (electronic label) บนทุเรียนแต่ละลูกเพื่อติดตามและยืนยันคุณภาพ นอกจากนี้จะใช้แพลตฟอร์มของบริษัทให้ความรู้กับผู้บริโภคชาวจีนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกแยะคุณภาพทุเรียนมากขึ้นด้วย

นำเข้าสินค้าไทย“แสนล้าน”

นอกจากนี้เจดีดอทคอม จะนำเสนอสินค้าจีนคุณภาพในราคาที่จับต้องได้สู่ผู้บริโภคชาวไทยผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท เนื่องจากหลากหลายแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของจีนก็มีคุณภาพทัดเทียมกับแบรนด์ต่างชาติอื่นๆ ที่มีราคาแพงกว่า โดยมีความเชื่อมั่นว่าแบรนด์คุณภาพจากจีนเหล่านี้ จะช่วยลดราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในตลาดไทยได้ถึง 30-50%

เจดีดอทคอม จะนำเข้าสินค้าในกลุ่มผลไม้ สินค้าจากยางพารา สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารทะเล จากประเทศไทยรวมเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และจะสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีและเกษตรกรในการสร้างรายได้และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ ทั้งยังพร้อมเสนอสินค้าไทยคุณภาพสู่ประเทศจีนเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ได้เสนอโครงการริเริ่มต่างๆ ต่อรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยและดึงดูดการลงทุนสู่อุตสาหกรรมเกิดใหม่ โดยนำเสนอโครงการ เช่น การก่อสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างฐานการฝึกอบรมด้านอีคอมเมิร์ซกับมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมไปถึงการสร้างศูนย์วิจัยร่วมด้านวิทยาศาสตร์ และมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือดังกล่าวกับประเทศสมาชิก ACMECS อื่นๆ ต่อไปในอนาคต

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight