Economics

ไทยชูเอกชนเชื่อมโยงทุกมิติร่วมประชาคมลุ่มน้ำโขง

20180615103017

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุม ACMECS CEO Forum ภายใต้หัวข้อ “บทบาทของภาคเอกชนในการสร้างประชาคมลุ่มน้ำโขง” ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี- เจ้าพระยา- แม่โขง (ACMECS Summit) ครั้งที่ 8 สรุปสาระสำคัญ

 การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติสมาชิก ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือในกรอบ ACMECS โดยอาศัยความได้เปรียบจากความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรม เพื่อลดช่องว่างในการพัฒนา มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน  ความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและในระดับท้องถิ่น มีบทบาทสำคัญ ในการส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองแบบยั่งยืนร่วมกันของอนุภูมิภาค

เร่งชาติACMECS ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้น ประเทศ ACMECS  จำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยเฉพาะภาคการเกษตร ที่ต้องยกระดับสินค้าเกษตรด้วยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงการบริหารจัดการความร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (development partners) ให้มีความสมดุล เกิดประสิทธิภาพสูงสุด   สามารถรักษาบทบาทและความเป็นแกนกลางของอาเซียนเอาไว้ได้

ทุกชาติสมาชิกเห็นพ้องจัดทำแผนแม่บท ACMECS (ACMECS Master Plan) เพื่อปรับโครงสร้าง และจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือ โดยเน้นสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม ดิจิทัล พลังงาน การเชื่อมโยงกฎระเบียบทางการค้า การลงทุน และการเงิน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรม

ทั้งนี้ภาคเอกชนถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา ACMECS ในการเป็นผู้ขับเคลื่อนการเชื่อมต่อห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค เพื่อให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนเดินทางไปพร้อม ๆ กัน

20180615103024

ไทยหนุนดันตั้งกองทุน ACMECS

1. ภาคเอกชน ACMECS ต้องร่วมมือกับภาครัฐในการขับเคลื่อนการลงทุนใน ACMECS เพื่อเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตในอนุภูมิภาค ACMECS ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ  เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกครบวงจร เช่น การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โครงสร้างพื้นฐาน ในรูปแบบ Public – Private Partnership ไทยจึงได้ผลักดันให้บรรจุ การเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างไร้รอยต่อ เป็นหนึ่งในเสาหลักของการพัฒนา ACMECS ในอนาคต และผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุน ACMECS ขึ้น

2. ภาคเอกชนจำเป็นต้องเพิ่มบทบาท เตรียมพร้อมให้ ACMECS สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ทั้งจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ  ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับเอกชนในการพัฒนาเกษตรกรยุคใหม่ (smart farmer) ตลอดจนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) รวมทั้งวิสาหกิจเริ่มต้น  จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน Smart ACMECS

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี จึงเชิญชวนให้เอกชน เข้ามาร่วมกำหนดเป้าหมายเร่งด่วน ในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรม

3. ภาคเอกชน ACMECS ต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากการพัฒนา สามารถเจริญเติบโตไปได้พร้อมกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (leave no one behind)

ไทยพร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการต่อประเทศสมาชิก ACMECS โดยเฉพาะในหลักสูตรการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นให้เข้มแข้ง เกิดการพัฒนาภาคเกษตรจากภายในสู่ภายนอก และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาที่จำเป็น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการ และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับประเทศ และในระดับชุมชน

20180615103019

ดึงเอกชนช่วยพัฒนาท่องเที่ยวACMECS

นอกจากนี้ ไทยมองว่า ภาคธุรกิจยังสามารถช่วยเร่งรัดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวภายในอนุภูมิภาค ACMECS และการจ้างงานแรงงานจากชาติสมาชิก ACMECS ได้อีก  โดยไทยพร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ ACMECS เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวร่วมกัน โดยอาศัยศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นจุดหมายลำดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในการกระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ประเทศสมาชิก ACMECS อื่น ๆ ตามนโยบาย Thailand + 1

ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้เริ่มนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงพื้นที่บริเวณชายแดนด้วย ในการจ้างแรงงาน ไทยมีนโยบายเปิดกว้าง โดยรัฐบาลได้จัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ  ทั้งสิ้น 10 แห่ง ตามบริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีความเหมาะสม และมีศักยภาพ อีกทั้งยัง มีมาตรการการอำนวยความสะดวกในการจ้างงานแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เหล่านี้

นายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญชวนภาคเอกชนจากทุกประเทศ ร่วมกันพัฒนาความร่วมมือในกรอบ ACMECS ให้ลึกซึ้ง เพื่อให้ทุกประเทศมีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง  แนวคิดดังกล่าว เป็นหนึ่งในการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)  ยังสอดรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  มุ่งเน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางและการเจริญเติบโต

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight