Economics

ทีดีอาร์ไอ ประเมิน ‘ไฟฟ้าฟรี’ รั่วไหล เสนอ 3 ทางเลือกปิดช่องโหว่

ทีดีอาร์ไอ ประเมินมาตรการ “ไฟฟ้าฟรี” ยังรั่วไหล ไปไม่ถึงคนจน เสนอ 3 ทางเลือกปรับนโยบาย ปิดช่องโหว่ แนะใช้วิธีอุดหนุนค่าไฟฟรีแบบเหมาจ่าย ผ่านบัตรสมาร์ท การ์ด พร้อมใช้งบอุดหนุนจากกองทุนประชารัฐ 

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยงานวิจัย ” มาตราการไฟฟ้าฟรีช่วยผู้มีรายได้น้อย ปี 56 – 58 “ โดยพบว่า มีกลุ่มตกหล่น และสิทธิรั่วไหลไปยังคนไม่จนจริง คาดเป็นกลุ่มคนมีบ้านหลังที่ 2  พบบางส่วนลดการใช้ไฟ เพื่อให้ได้รับสิทธิ ส่งผลกระทบสร้างภาระอุดหนุนเพิ่มหลายล้านบาทต่อปี แนะอุดช่องโหว่นโยบาย เก็บตกคนจนให้ทั่วถึง ยกเลิกผูกสิทธิตาม โควต้าการใช้ ปรับเป็นแบบเหมาจ่ายต่อเดือน

Dr.Wichsinee
วิชสิณี วิบุลผลประเสริฐ

ดร.วิชสิณี วิบุลผลประเสริฐ นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ นำเสนอผล งานวิจัย โครงการประเมินนโยบายไฟฟ้าฟรีเพื่อผู้มีรายได้น้อย ในงาน TSRI FORUM “ทางเลือกนโยบาย…เพื่อความเป็นธรรมด้านพลังงาน”  สนับสนุน โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)

โครงการนี้มีเป้าหมายศึกษานโยบายอุดหนุน “ไฟฟ้าฟรี” ในช่วงรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ปี 2556 – 2558 ที่อุดหนุนไฟฟรีให้แก่ครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนในอดีต หรือ 50 หน่วย ต่อเดือนในปัจจุบัน เพื่อประเมินผลนโยบายใน 5 มิติ  ประกอบด้วย

1) การเข้าถึงสิทธิไฟฟ้าฟรี เทียบพื้นที่ครัวเรือนรายได้น้อย

2) การรั่วไหลของนโยบายไฟฟ้าฟรี

3) ความพอเพียงและความเหมาะสมของสิทธิ

4) การบิดเบือนพฤติกรรมของการบริโภคไฟฟ้า

5) ภาระเงินอุดหนุน

thailand 997413 640

ดร.วิชสิณี กล่าวว่า ได้เทียบเคียงสัดส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรี กับครัวเรือนรายได้น้อยในแต่ละจังหวัด พบว่า มีความสัมพันธ์ในเชิงพื้นที่ค่อนข้างสูง 64 % ซึ่งหมายความว่าจังหวัดที่มีสัดส่วนครัวเรือนรายได้น้อยมาก จะมีสัดส่วนผู้ได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรีมากเช่นกัน

แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิดังกล่าว ราว 10,996 ครัวเรือน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จังหวัด แม่ฮ่องสอน ตาก นครนายก น่าน และ ลำพูน อีกทั้งครัวเรือนที่ไม่มีมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นของตัวเองก็ไม่ได้รับสิทธิ ได้แก่ กลุ่มผู้เช่าอยู่ และผู้อาศัยในเพิงพักพิงชั่วคราว ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ปี 2558 มีจำนวน 15,497 ครัวเรือน

สำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ภาครัฐให้การอุดหนุนให้ใช้ฟรี ใน ปี 2558 อยู่ที่ไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน พบว่ายังต่ำกว่าความต้องการไฟฟ้าพื้นฐานของครัวเรือนรายได้น้อย เนื่องจาก การสำรวจสำนักงานนโยบาย และแผนพลังงาน เมื่อปี พ.ศ. 2559 พบว่าความต้องการใช้ไฟของครัวเรือนที่มีสมาชิก 2.5 คน มีความจำเป็นใช้ไฟขั้นต่ำอยู่ที่ 60 หน่วยต่อเดือน สูงกว่าที่รัฐอุดหนุน และจำนวนสมาชิกในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยของประเทศไทยส่วนใหญ่ มีจ่านวนสมาชิกโดยเฉลี่ย 3.3 -3.5 คนต่อครัวเรือน และครัวเรือนรายได้น้อยเกือบ 25 % มีจ่านวนสมาชิกมากกว่า 5 คน  ดังนั้นการอุดหนุนจึงยังไม่เพียงพอ และไม่เป็นธรรมสำหรับครัวเรือนที่มีขนาดใหญ่

ส่วนผลศึกษา ปัญหาการรั่วไหลของนโยบายไฟฟ้าฟรี พบว่า ยังมีการรั่วไหลไปนอกกลุ่มเป้าหมาย พิจารณาจากครัวเรือนที่ใช้ฟ้าน้อยกว่า 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่สม่ำเสมอ สันนิษฐานว่าอาจเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ไม่ควรได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรี

ทั้งนี้ในระหว่างปี 2555 – 25558 พบเงินอุดหนุนที่รั่วไหลในเขต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)  ที่อุดหนุนให้กับการรั่วไหลที่อาจไปยังบ้านหลังที่สอง มีมูลค่าสูงถึง 830 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ผลกระทบจากนโยบาย ยังทำให้เกิดกรณีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลดการใช้ไฟฟ้าลง 1-2 หน่วย เพื่อได้รับสิทธิไฟฟ้าฟรี เห็นได้จากข้อมูลการใช้ไฟของประเทศไทยในช่วงที่มีมาตรการไฟฟ้าฟรี กระจุกอยู่ที่ 50 หน่วยต่อเดือน เป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะมีแง่ดีในการลดใช้พลังงาน แต่ก็ได้เพิ่มภาระในการอุดหนุนอย่างน้อย 18 – 23 ล้านบาทต่อปีด้วยเช่นกัน

เนื่องจากนโยบายไฟฟ้าฟรี ใช้วิธีการอุดหนุนแบบไขว้ ดร.วิชสิณี วิเคราะห์ว่าทำให้ทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 1% โดยภาระเกือบทั้งหมดตกอยู่กับผู้ใช้ไฟประเภทกิจการขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม การผลิตอาหาร โรงแรม ผลิตเครื่องจักร สิ่งทอ และเหล็ก ซึ่งถือเป็นภาระที่ไม่สูงมากนัก

จากช่องโหว่ที่เกิดขึ้น เพื่อปรับปรุงนโยบายสร้างความเป็นธรรมด้านพลังงานในอนาคต ดร.วิชสิณี เสนอแก้ปัญหาด้วย 3 นโยบายทางเลือก รวมถึงทางแก้ไขการอุดหนุนที่ยังไม่เหมาะสมเพียงพอ ประกอบด้วย

ทางเลือก 1 ใช้กลไกระบุตัวผู้ได้รับสิทธิ ผ่านการลงทะเบียนสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ปี 2560 โดยกระทรวงการคลัง
ทางเลือก 2 การระบุผู้มีรายได้น้อยจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อมูลจากแผนที่ความยากจน ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเพื่อระบุพื้นที่ ควบคู่กับ ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการระบุตัวคนรายได้น้อย
ทางเลือก 3 การระบุผู้มีรายได้น้อยจากข้อมูลที่ขนาดใหญ่ (Big Data) เช่น ข้อมูลจากภาพถ่ายทางอากาศ ข้อมูลเพื่อการบริหาร (administrative data) เช่น บิลค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ การใช้โทรศัพท์มือถือ

โดยทั้งสามทางเลือก เสนอใช้วิธีการอุดหนุนค่าไฟฟรีแบบเหมาจ่าย แทนการผูกสิทธิกับปริมาณใช้ไฟ ผ่านบัตรสมาร์ท การ์ด เพื่อแก้ปัญหาการมีพฤติกรรมใช้ไฟบิดเบือน และเสนอใช้งบประมาณอุดหนุนที่มาจากกองทุนประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก หรือจากงบประมาณประจำปี

Avatar photo