Economics

พาณิชย์-มหาดไทย แท็กทีมลุยปราบนอมินีต่างชาติ ถือครองที่ดินของไทย

พาณิชย์-มหาดไทย แท็กทีมลุยปราบนอมินีต่างชาติ ถือครองที่ดินของไทย บูรณาการข้อมูลพร้อมทำงานเชิงรุก

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังจากเป็นประธานและสักขีพยานร่วมกับ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ใน “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว” ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกรมที่ดิน

โดยกล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของภาครัฐในการบูรณาการข้อมูลและใช้กลไกความร่วมมือในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

นอมินีต่างชาติ

นอมินีถือครองที่ดิน นำไปประกอบธุรกิจต้องห้าม

ปัจจุบันมีคนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินในประเทศไทย โดยให้คนไทยถือครองที่ดินแทน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกฎหมาย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ เช่น การประกอบธุรกิจที่ต้องห้ามสำหรับ คนต่างด้าว หรือธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน และการกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนกลไกทางตลาด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและการป้องปรามการกระทำความผิดตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจและการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีอย่างจริงจัง อันจะนำไปสู่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่โปร่งใส เป็นธรรม และยั่งยืน

นอมินีต่างชาติ

บูรณาการข้อมูล ปราบนอมินีต่างชาติถือครองที่ดินในไทย

นายนภินทร กล่าวต่อว่า การที่ประเทศไทยเผชิญปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว เพื่อแสวงหาประโยชน์จากที่ดินในลักษณะการประกอบธุรกิจต้องห้าม เช่น ธุรกิจเกษตร ธุรกิจที่พัก ธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นพฤติกรรมที่กระทบโดยตรงต่อความมั่นคงด้านทรัพยากรของประเทศและด้านเศรษฐกิจอันเกี่ยวเนื่องกับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

กระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลธุรกิจ และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการบูรณาการการทำงานร่วมกัน จึงได้ผนึกกำลังเพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจและการปกป้องทรัพยากรของชาติ เนื่องจากที่ดินถือเป็นเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การลงนาม MOU ครั้งนี้ จะเป็นความหวังของประชาชน ไม่ใช่เพียงการลงนามในกระดาษ

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้เป็นพันธกิจร่วมกันของภาครัฐ ซึ่งมุ่งประสงค์ที่จะใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายของไทยและแก้ปัญหาเชิงกลยุทธ์กับผู้แสวงหาประโยชน์โดยไม่สุจริต ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลคนต่างด้าวและตรวจสอบนิติบุคคลตามรายชื่อที่ได้รับแจ้งระหว่างกัน โดยเฉพาะข้อมูลนิติบุคคลที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นนอมินี และข้อมูลการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว เป็นต้น

เพื่อที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมที่ดินจะได้ดำเนินการตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ พื้นที่ทางการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติมีความสำคัญในโครงสร้างทางเศรษฐกิจและความมั่นคงด้านที่ดิน ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต การร่วมมือกันในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหานิติบุคคลที่มีลักษณะเข้าข่ายนอมินี ซึ่งจากนี้ไปกรมที่ดินจะนำข้อมูลที่เชื่อมโยงกันครั้งนี้ไปตรวจสอบและทำงานในเชิงรุกต่อไป

นอมินีต่างชาติ

เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ 3 ประการ

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนับก้าวสำคัญของการทำงานเชิงรุกและการกำกับดูแลเชิงโครงสร้าง ในระยะยาว ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นต้นแบบของการบริหารภาครัฐยุคใหม่ และจะเป็นรากฐานที่มั่นคงนำไปสู่ความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองหน่วยงาน และประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติใน 3 ประการ ดังนี้

1) การป้องกันการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายในการประกอบธุรกิจ หรือ การถือครองที่ดิน

2) การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

3) การส่งเสริม ให้มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเป็นธรรม และคุ้มครองธุรกิจของคนไทยที่ยังไม่มีความพร้อมในการแข่งขันกับนักลงทุนต่างชาติได้อย่างเสรี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo