“รมว.คลัง” เตรียมแผน 2 ไว้รองรับ หากเจรจามาตรการภาษีตอบโต้ “ทรัมป์” ล่ม!! ลั่นวิกฤตินี้ใหญ่กว่าโควิด
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการเตรียมเดินทางไปเจรจามาตรการภาษีตอบโต้กับทางสหรัฐว่า ขณะนี้ข้อมูลในหลักการเบื้องต้นพร้อมหมดแล้ว โดยจะเดินทางไปเจรจาในเวลาที่เหมาะสม เพื่อทำให้การเจรจาเกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย แม้การเจรจาจะเป็นแค่กรอบ แต่จะเป็นกรอบที่เห็นร่วมกันว่าเป็นการแก้ปัญหาที่สามารถปฏิบัติร่วมกันได้อย่างแน่นอน
ส่วนการยื่นข้อเสนอภาษี 0% ให้กับสหรัฐนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ใช่คำตอบ เพราะโจทย์สำคัญในขณะนี้ คือ สหรัฐมีการนำเข้าสินค้ามากเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ปัจจุบันขาดดุลการค้าปีละ ราว 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไทยเห็นโจทย์ในส่วนนี้แล้ว ถ้ารีบไป โดยที่เราไม่รู้โจทย์ ก็ไม่รู้จะไปเสนออะไร
ดังนั้น วิธีการส่งสัญญาณง่าย ๆ เบื้องต้น อาจจะต้องหารือกับระดับปฏิบัติการก่อน โดยอาจจะหารือกับสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ก็อาจจะเห็น และทำให้เราพอรู้ว่าอะไรจะสามารถตอบโจทย์ที่สหรัฐต้องการ และอะไรจะตอบโจทย์กับประเทศไทยด้วย
รมว.คลัง ระบุว่า ในกรณีเลวร้าย หากการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ และเศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤติ ประเทศไทยจะต้องเตรียมแผน 2 ไว้เพื่อรองรับ และเป็นทางเลือกสำหรับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือ การปรับโครงสร้างประเทศ ด้วยการปรับเพดานหนี้สาธารณะ เพื่อเปิดช่องให้เกิดการลงทุน เพราะใน 20 ปีที่ผ่านมา ไทยไม่มีการลงทุนในประเทศเลย หรือบางจังหวะอาจจำเป็นที่จะต้องมีการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ยืนยันว่าตรงนี้ไม่ได้ทำเป็นนิสัย จะไม่ใช่การแจกเงินไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีความจำเป็นอย่างแน่นอน

“เพดานหนี้สาธารณะ จะ 60% 70% หรือ 80% จะมีหนี้เท่าไร ตรงไหนจะเรียกว่าหนี้เยอะ แต่เรามีปัญญาคืน ก็เรียกว่าหนี้ไม่เยอะ คำว่ามีปัญญาคืน หมายถึง หนี้ของรัฐบาลที่ลงทุนไปแล้ว สร้างระบบเศรษฐกิจที่ดี ทำให้มีผลตอบแทนกลับมา ทำให้เรามีความสามารถในการคืนหนี้ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ว่า การก่อหนี้ที่เกินไปนั้น ได้ลงไปในสิ่งที่พึงกระทำหรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน 60% ของหนี้รัฐบาลเป็นหนี้ที่กู้ในประเทศ ส่วนหนี้ต่างประเทศมีเพียง 1% กว่าเท่านั้น แปลว่าเศรษฐกิจไทยเรามีเงินหมุนเพียงพอ การกู้ตรงนี้ก็เหมือนพ่อยืมลูก เมื่อเศรษฐกิจดี พ่อก็นำเงินไปคืนลูก ตรงนี้ปกติ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ กู้จนลูกหมดตัว แล้วไปกู้ต่างประเทศต่อ พอถึงเวลาเราไม่มีคืน ก็จะเหมือนกับประเทศในอเมริกาใต้หลาย ๆ แห่ง ที่หนี้สาธารณะสูงเกินระดับ 100%” นายพิชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้ใหญ่กว่าโควิด-19 เพราะไม่สามารถประเมินได้ว่าสงครามการค้าโลกครั้งนี้ จะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าอาจจะพอเดาได้ลาง ๆ แต่วิกฤติครั้งนี้ไม่ได้เกิดแค่ไทยกับสหรัฐ หรือเวียดนามกับสหรัฐเท่านั้น แต่อาจจะมีอีกหลายคู่ เพราะเวลาที่ทั่วโลกมีปัญหา ทุกคนมีโจทย์เดียวกันทั้งหมด ดังนั้นแต่ละประเทศก็จะต่างคนต่างป้องกันตัวเอง ก็อาจจะกระทบกับประเทศไทยได้ในมิติต่าง ๆ
“มีการประเมินว่า ปัจจัยเสี่ยงในเรื่องนี้ หากไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลกให้หายไป 3% ส่วนเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีหายไป 1-1.5%” นายพิชัย ระบุ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกรัฐมนตรี’ มั่นใจทีมเจรจาภาษีทรัมป์ทำเต็มที่ ลั่นไม่ท้อ แม้หลายสิ่งทำหัวจะปวด!!
- ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดยุทธศาสตร์เจรจาภาษี ‘ทรัมป์’ รับต้องใช้เวลา ไม่ใช่เจรจาครั้งเดียวจบ!
- Chicken Game เมื่อ ‘ทรัมป์’ เล่นเกมวัดใจ หุ้นไทยสาหัส!! ส่อแววดิ่งเหลือ 960 จุด
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg